ร้อยไหม คือ วิธีที่นำมาใช้ในการยกกระชับ ซึ่งช่วยแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยของผิวหนังบนใบหน้า รวมถึงช่วยฟื้นฟู ลดเลือนริ้วรอย และปรับรูปหน้าให้ดูเรียวขึ้น เป็นวิธียกกระชับที่ใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย แต่โดยทั่วไปนิยมใช้กับผิวหน้ามากกว่า โดยหลักการของเทคนิคนี้คือ การใช้ไหมร้อยเข้าไปบริเวณใต้ผิวหนัง โดยไหมที่ร้อยเข้าไปนั้นจะไปกระตุ้นให้เกิดการอักเสบของเนื้อเยื่อใต้ผิว ส่งผลให้เกิดการสร้างคอลลาเจนมาพันรอบแนวเส้นไหม ช่วยให้เกิดการดึงรั้งของผิวหน้าจนเต่งตึงและกระชับ อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดให้มาเลี้ยงชั้นผิวหนังบริเวณดังกล่าวเพิ่มขึ้นด้วย

 


ร้อยไหมมีประโยชน์อย่างไร ทำไมต้องร้อยไหม

  1. ช่วยแก้ปัญหาผิวหน้าที่หย่อนคล้อย ซึ่งผลลัพธ์จากการร้อยไหมอยู่ได้นาน
  2. ไหมจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการหดตัวของคอลลาเจนใต้ผิว ซึ่งจะทำให้ผิวเกิดการกระชับและตึงทันทีหลังร้อยเสร็จ
  3. ขณะที่ไหมละลายอยู่ใต้ผิวหนัง จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างเส้นเลือดใหม่ ส่งผลทำให้เลือดไหลเวียนมาเลี้ยงชั้นผิวหน้าได้เพิ่มขึ้น
  4. ใช้เวลาไม่นาน มีประสิทธิภาพสูง เห็นผลทันทีหลังทำ
  5. ช่วยลดริ้วรอยและร่องลึก รวมถึงช่วยฟื้นฟูสภาพผิวหน้าให้กลับมากระจ่างใส
  6. ไม่ต้องผ่าตัดและพักฟื้น มีผลข้างเคียงน้อย

ร้อยไหมเหมาะกับใคร ทำตรงไหนได้บ้าง

การร้อยไหมเหมาะสำหรับผู้ที่ประสบปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อย รูปหน้าไม่กระชับ อยากปรับรูปหน้าให้เรียว มีแก้มค่อนข้างเยอะ และต้องการฟื้นฟูสภาพผิวหน้าให้กลับมาเปล่งปลั่ง ตึงกระชับมากขึ้น โดยปัญหาแก้มหย่อนคล้อยนั้นเกิดจากเมื่ออายุมากขึ้น คอลลาเจนใต้ผิวหน้าจะลดลง จึงทำให้ผิวหน้ามากองอยู่ที่บริเวณขอบกราม และเหนียง การร้อยไหมจึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะกับผู้ที่ประสบปัญหานี้ เนื่องจากจะช่วยกระตุ้นเซลล์ให้สร้างเส้นคอลลาเจนขึ้นมารอบเส้นไหม ช่วยให้เกิดการดึงรั้งของผิวหน้า ทำให้ผิวหนาเต่งตึงและกระชับแต่ทั้งนี้เนื้อเยื่อของผู้ที่จะทำการร้อยไหมต้องไม่ยุบตัวหรือผิวหนังต้องไม่หย่อนคล้อยมากเกินไป เพราะอาจทำให้ไม่ได้ผลลัพธิ์ดีเท่าที่ควร ซึ่งหากผิวหนังหย่อนคล้อยเนื่องจากอายุหรือมีน้ำหนักตัวมาก อาจจะต้องมีการร้อยไหมร่วมกับการทำหัตถการหรือวิธีการอื่น เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนขึ้น

 

การร้อยไหม ไม่ได้จำกัดแค่เพียงบริเวณกรอบหน้าเพื่อปรับรูปหน้าเท่านั้น แต่สามารถทำได้หลายบริเวณแตกต่างกันไป เพราะไหมมีหลายขนาด หลายชนิด จึงสามารถร้อยได้ตามจุดที่อยากแก้ปัญหา โดยมีจุดที่สามารถร้อยได้ ดังนี้

  • ใบหน้า
  • จมูก
  • หน้าผาก
  • คอ
  • เหนียง
  • อก
  • ปาก ( แก้ริ้วรอยเล็กๆบริเวณมุมปาก)

ไหมมีกี่ชนิด แต่ละชนิดต่างกันอย่างไร

การร้อยไหมจะเห็นผลเต็มที่และมีประสิทธิภาพมากที่สุดนั้น การเลือกเส้นไหมให้เหมาะกับปัญหาใบหน้าของแต่ละบุคคลก็เป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากเส้นไหมแต่ละชนิดมีความแตกต่างกัน ดังนั้นผลลัพธ์จากการร้อยไหมแต่ละชนิดก็จะแตกต่างกันด้วย ซึ่งไหมที่จะใช้ในกระบวนการนี้มีให้เลือกหลายชนิด ดังนี้

  • ไหมเรียบ (Mono threads) มีลักษณะเป็นเส้นเรียบ สั้นๆ ความยาวไม่เกิน 10 ไม่มีเงี่ยง ปุ่ม หรือเกลียว นิยมร้อยเป็นตาข่าย เพื่อทำให้ใบหน้ากระชับ โดยไหมจะช่วยเข้าไปกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน ส่วนใหญ่จะใช้ร้อยบริเวณหน้าผาก คอ และใต้ตา เนื่องจากเป็นไหมเส้นเล็กจึงจะช่วยให้ผิวหนังเต่งตึง แต่ไม่ได้ช่วยยกชั้นผิวหนัง
  • ไหมเกลียว ( Screw threads ) เป็นเส้นไหมหนึ่งหรือสองเส้นเกลียวเข้าด้วยกัน โดยไหมชนิดนี้ช่วยในการเพิ่มปริมาตรบริเวณผิวหนังที่ยุบตัว หรือเป็นร่อง จากลักษณะที่มีสองเส้นเกลียวเข้าด้วยกัน จึงสามารถช่วยยกกระชับผิวหนังได้ดีกว่า ดังนั้น ไหมเกลียวจึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่าไหมเรียบสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อย ที่ต้องการยกกระชับผิวหนัง
  • ไหมเงี่ยง ( Cog threads ) หรือไหมก้างปลา ไหมชนิดนี้มีลักษณะค่อนข้างใหญ่และมีเงี่ยงตลอดแนวไหม โดยเงี่ยงของไหมชนิดนี้ จะทำหน้าที่ยึดเกาะเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง และช่วยยกเนื้อเยื่อหรือผิวหนังให้ตึงขึ้น ซึ่งไหมขนิดนี้ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับบริเวณคาง และอยากปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น

ไหมที่ใช้ในการร้อยไหมมีให้เลือกหลายชนิด แต่ที่นิยมใช้กันมากที่สุด คือ ไหมละลาย PDO ( Polydioxanone ) ซึ่งเป็นไหมที่นำมาใช้ในการทำศัลยกรรม เย็บแผลผ่าตัดเส้นเลือดหัวใจ จึงมีโอกาสที่จะเกิดการแพ้น้อยมาก และยังได้รับการรับรองความปลอดภัยจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ไหมละลายนี้จะถูกดูดซับโดยผิวหนังหลังจากร้อยไหมได้สักระยะ และจะสลายตัวเองภายใน 8 เดือน จึงไม่เป็นอันตรายต่อผิวหนัง

 


ขั้นตอนการร้อยไหม

ก่อนทำการร้อยไหมแพทย์จะให้คำแนะนำ และสอบถามเกี่ยวกับโรคประจำตัวหรือการใช้ยาของคนไข้ เนื่องจากสารในตัวยาบางชนิดอาจมีผลต่อการร้อยไหม เมื่อให้คำแนะนำเสร็จแล้ว แพทย์จะทายาชาร่วมกับฉีดยาชาในบางตำแหน่ง หลังจากนั้นแพทย์จะนำเส้นไหมที่จัดเตรียมไว้สอดเข้าไปให้ยึดตามเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังอย่างระมัดระวัง โดยแพทย์จะจัดเรียงเส้นไหมจากการพิจารณาตามโครงสร้างใบหน้าของคนไข้ ซึ่งจะใช้เวลาในการทำประมาณ 20-40 นาที ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับจำนวนไหมที่ร้อย ซึ่งพิจารณาจากบริเวณที่จะทำ ว่ามีความหย่อนคล้อยมากน้อยเพียงใด รวมถึงขึ้นอยู่กับเทคนิค และความเชี่ยวชาญของแพทย์อีกด้วย

ขณะทำการร้อยไหม จะรู้สึกเจ็บเล็กน้อยหรือไม่เจ็บเลย เพราะมีการทายาหรือฉีดยาชาก่อนที่จะเริ่มการร้อยไหม ทั้งนี้อาจพบรอยช้ำตามแนวร้อยไหมร่วมกับมีอาการบวม แต่อาการเหล่านั้นจะหายไปเองภายใน 14 วันหลังการร้อยไหม

 


ผลลัพธ์จากการร้อยไหม

ร้อยไหมผลลัพธ์เป็นอย่างไร หลังจากร้อยไหมสามารถใช้ชีวิตประจำวัน และแต่งหน้าได้ตามปกติ โดยไม่ต้องพักฟื้น แต่ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อผลลัพธิ์ที่ดีและเพื่อไม่ให้เป็นอันตราย โดยในช่วง 3-4 วันแรกหลังร้อยไหมจะพบอาการบวมช้ำ ซึ่งอาจมีมากหรือน้อยหรือไม่มีเลย ขึ้นอยู่กับชนิด ปริมาณ ของไหม รวมถึงเทคนิคในการร้อยและความชำนาญของแพทย์

การร้อยไหมจะเห็นผลทันทีหลังทำ และจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนขึ้นหลังจากอาการบวมเริ่มยุบลงและรูปหน้าเริ่มปรับเข้าที่ ทั้งนี้การร้อยไหมเป็นเทคนิคในการยกกระชับผิวหน้าเพียงชั่วคราว โดยผลลัพธ์ จะคงอยู่ประมาณ 1-2 ปี และอาจเริ่มกลับมาหย่อยคล้อยเล็กน้อยภายใน 6 เดือนแรก จึงทำให้อาจต้องร้อยไหมอีกครั้ง เพื่อผลลัพธ์ที่ยาวนานขึ้น

 


ข้อควรระวังและข้อควรปฏิบัติหลังการร้อยไหม

ข้อควรระวังหลังจากการทำร้อยไหม มีดังนี้

  • หลีกเลี่ยงการทำเลเซอร์หรือหัตถการอื่น รวมถึงทรีทเมนท์และซาวน่า อย่างน้อย 3-4 สัปดาห์ หลังผ่านการร้อยไหม
  • การร้อยไหมลงไปใต้ผิวหนัง มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อจากการใช้เข็มสอดเส้นไหมเข้าไปจำนวนมาก รวมถึงในกรณีที่อุปกรณ์ในการทำไม่สะอาด ซึ่งการติดเชื้อนี้อาจทำให้เกิดรอยบุ๋มของผิวหนัง หรือผิวหนังทั้งสองข้างยกกระชับไม่เท่ากัน
  • ไม่ควรนวดบริเวณที่พึ่งทำการร้อยไหม ประมาณ 2 เดือน ให้ทำการประคบเย็นเพื่อช่วยลดอาการบวมช้ำหลังการร้อยไหม
  • งดเว้นอาหารประเภทหมักหรือดอง อาหารที่มีรสจัด รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากแอลกอฮอล์มีผลลดการแข็งตัวของเลือด อาจทำให้มีเลือดซึมออกบริเวณจุดที่ร้อยไหม เสี่ยงเกิดการอักเสบ

 


รีวิวร้อยไหม  by หมอฝน ธารารินคลินิก

 

ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงในแต่ละบุคคล”

 

 

ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงในแต่ละบุคคล”

 

 

ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงในแต่ละบุคคล”

 

 

ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงในแต่ละบุคคล”

 

 

 


ร้อยไหม ที่ ธารารินคลินิก ดีอย่างไร มีอะไรบ้าง

จุดเด่นของการร้อยไหมที่ ธารารินคลินิก

  • สามารถยกกระชับหน้าผาก คิ้ว แก้ม คาง คอ ท้องแขนที่หย่อนคล้อย คล้ายการผ่าตัดดึงหน้า
  • ช่วยให้ผิวตึงกระชับ เพิ่มความยืดหยุ่นเหมือนผิววัยสาว จากการกระตุ้นผิว ให้สร้างคอลลาเจนขึ้นใหม่
  • ช่วยแก้ปัญหาผิวที่หย่อนคล้อย ซึ่งไม่สามารถแก้ไขได้จากการฉีด Filler หรือ Laser

 

 

Premium Mint Lift 

ราคา 29,990 บาท  ( จากปกติ 40,000 บาท )

Diamond Lift   

4 เส้น  ราคา  5,990  บาท

8 เส้น  ราคา  9,990  บาท