TARARIN CLINIC
เปิดให้บริการ 3 สาขา ขอนแก่น, มหาสารคาม, ร้อยเอ็ด 085-7550515

Blog

กำจัดไฝด้วย CO2 Laser ดีกว่าวิธีอื่นอย่างไร? เปรียบเทียบข้อดี–ข้อเสียที่คุณควรรู้ก่อนตัดสินใจ

กำจัดไฝด้วย CO2 Laser ดีกว่าวิธีอื่นอย่างไร? เปรียบเทียบข้อดี–ข้อเสียที่คุณควรรู้ก่อนตัดสินใจ

กำจัดไฝด้วย CO2 Laser ดีกว่าวิธีอื่นอย่างไร? เปรียบเทียบข้อดี–ข้อเสียที่คุณควรรู้ก่อนตัดสินใจ

read more
"ความลับคืนความอ่อนเยาว์: เจาะลึก Biostimulator 6 ยี่ห้อที่คุณควรรู้"

"ความลับคืนความอ่อนเยาว์: เจาะลึก Biostimulator 6 ยี่ห้อที่คุณควรรู้"

ไขความลับ Biostimulator ตัวช่วยคืนความอ่อนเยาว์ที่คุณควรรู้ก่อนตัดสินใจเลือก

 

สารบัญ

 

ทำความรู้จักกับ Biostimulator

Biostimulator หรือ คอลเจน ไบโอสติมมูเลเตอร์ เป็นนวัตกรรมล้ำสมัยในวงการความงามที่ช่วยฟื้นฟูผิวแบบไม่ต้องผ่าตัด ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในร่างกายอย่างเป็นธรรมชาติ นำไปสู่การฟื้นฟูโครงสร้างผิวจากภายในสู่ภายนอก

ในปัจจุบัน ไบโอสติมมูเลเตอร์ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ผู้ที่ต้องการคงความอ่อนเยาว์และแก้ไขปัญหาผิวหย่อนคล้อย เพราะให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและยาวนาน โดยไม่ต้องพึ่งการศัลยกรรม

กลไกการทำงานของ Biostimulator

 

Biostimulator ทำงานด้วยกลไกพิเศษที่แตกต่างจากผลิตภัณฑ์ความงามทั่วไป โดยมีขั้นตอนการทำงานดังนี้:

  1. การฉีดสารกระตุ้น: แพทย์จะฉีดไบโอสติมมูเลเตอร์เข้าสู่ชั้นผิวหนัง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นชั้น dermis หรือ subcutaneous
  2. การกระตุ้นการตอบสนอง: เมื่อร่างกายตรวจพบสารที่ฉีดเข้าไป จะเกิดการตอบสนองโดยธรรมชาติเพื่อ “ห่อหุ้ม” สารนั้นและเกิดการกระตุ้นเซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ซึ่งเป็นเซลล์ที่สร้างคอลลาเจนและอีลาสตินให้ทำงานมากขึ้น คือ คือผลิตคอลลาเจนมากขึ้นนั่นเอง
  3. การฟื้นฟูโครงสร้างผิว: คอลลาเจนและอีลาสตินที่ถูกสร้างขึ้นใหม่จะช่วยเสริมโครงสร้างผิว ทำให้ผิวกระชับ เรียบเนียน และดูอ่อนเยาว์ขึ้น

 

ระยะเวลาการฟื้นฟูและผลลัพธ์ที่คาดหวัง

การใช้ Biostimulator ไม่ได้ให้ผลลัพธ์ทันทีเหมือนกับการทำหัตถการบางประเภท แต่จะค่อยๆ เห็นผลดีขึ้นตามเวลา:

  • ระยะที่ 1 (1-4 สัปดาห์แรก): อาจสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เช่น ผิวดูสดใสขึ้น
  • ระยะที่ 2 (1-3 เดือน): เริ่มเห็นผลชัดเจนขึ้น ผิวเริ่มกระชับ ยืดหยุ่นดีขึ้น ริ้วรอยตื้นขึ้น
  • ระยะที่ 3 (3-6 เดือน): ผลลัพธ์เต็มที่ ผิวกระชับ เรียบเนียน มีปริมาตร และดูอ่อนเยาว์

ผลลัพธ์ที่ได้จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น:

  • อายุ
  • สภาพผิวเดิม ความรุนแรงความหย่อนคล้อยก่อนเริ่มกระบวนการรักษา
    (Grading of Sagging Face )
  • ไลฟ์สไตล์ (การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ การนอนหลับ)
  • การดูแลผิวหลังการรักษา
  • ชนิดของ Biostimulator ที่ใช้

 

ความปลอดภัยและข้อควรระวัง

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น

  • รอยช้ำ บวม แดงบริเวณที่ฉีด (มักหายได้เองใน 3-7 วัน)
  • อาการเจ็บหรือคันบริเวณที่ฉีด
  • โอกาสเกิดก้อนใต้ผิวหนัง (เกิดได้น้อยมากหากฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ)
  • การติดเชื้อ (พบได้น้อยมาก)

ข้อห้ามในการใช้

  • หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
  • ผู้ที่มีประวัติแพ้ส่วนประกอบของ Biostimulator
  • ผู้ที่มีการติดเชื้อบริเวณที่จะทำการรักษา
  • ผู้ที่มีโรคออโตอิมมูนบางชนิด
  • ผู้ที่มีแนวโน้มการเกิดแผลเป็นคีลอยด์ (Keloid)

 

เปรียบเทียบ Biostimulator 6 แบรนด์ยอดนิยม

เปรียบเทียบ Biostimulator

 

ในตลาดปัจจุบัน มีไบโอสติมมูเลเตอร์หลากหลายแบรนด์ให้เลือก แต่ละแบรนด์มีคุณสมบัติเด่นแตกต่างกันไป ดังนี้:

 


 

Radiesse: ฟื้นฟูโครงสร้างผิว ได้ทั้งงานผิวและยกกระชับ

Radiesse & Radiesse plus

 

ส่วนประกอบหลัก: Calcium Hydroxylapatite (CaHA) + Carboxymethylcellulose gel (CMCgel)

คุณสมบัติเด่น:

  • กระตุ้นคอลลาเจนทั้ง Type 1 และ Type 3
  • ให้ผลลัพธ์แบบ 2-in-1 คือเติมเต็มทันทีและกระตุ้นคอลลาเจนในระยะยาว
  • เสริมโครงสร้างผิวให้แน่นกระชับ
  • เพิ่มปริมาตรใบหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ

ผลลัพธ์ที่ได้:

  • ลดเลือนริ้วรอยลึกบริเวณร่องแก้มและรอบปาก
  • เพิ่มปริมาตรให้กับใบหน้าที่ดูแก่ก่อนวัย
  • ยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย
  • ปรับรูปหน้าให้มีมิติ

ระยะเวลาในการเห็นผล: เห็นผลทันทีหลังฉีด และดีขึ้นต่อเนื่องใน 1-3 เดือน
อยู่ได้นาน : 2 ปี ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีดและลักษณะผิว


 

Sculptra: กระตุ้นคอลลาเจน Type 1

Sculptra ตัวจริงเรื่องกระตั้นคอลลาเจน ศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนตัดสินใจฉีด ปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของเราเพื่อผลลัพธิ์ที่ดีและปลอดภัย

 

ส่วนประกอบหลัก: Poly-L-Lactic Acid (PLLA)

คุณสมบัติเด่น:

  • กระตุ้นคอลลาเจนได้สูงถึง 66.5% ภายใน 3 เดือน
  • ให้ผลลัพธ์แบบค่อยเป็นค่อยไป ดูธรรมชาติ
  • ฟื้นฟูโครงสร้างผิวอย่างลึกซึ้ง
  • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนแบบยาวนาน

ผลลัพธ์ที่ได้:

  • แก้ไขปัญหาผิวหย่อนคล้อย
  • เพิ่มความยืดหยุ่นและความแน่นให้กับผิว
  • ปรับโครงสร้างใบหน้า

ระยะเวลาในการเห็นผล: ค่อยๆ เห็นผลชัดขึ้นใน 6-8 สัปดาห์ และเห็นผลเต็มที่ใน 2-3 เดือน
อยู่ได้นาน:  2 ปี ขึ้นอยู่กับจำนวนครั้งที่รักษาและสภาพผิว


 

Juvelook: เพิ่มความชุ่มชื้นพร้อมกระชับผิวในบริเวณผิวที่บอบบาง

Juvelook

ส่วนประกอบหลัก: Poly-D,L-Lactic Acid (PDLLA) + Hyaluronic Acid (HA)

คุณสมบัติเด่น:

  • ผสมผสานคุณสมบัติของ HA ที่ให้ความชุ่มชื้นสูง
  • เทคโนโลยี non-crosslink HA ช่วยเพิ่มการซึมซาบ
  • สามารถใช้เป็น Skin Booster ได้
  • เพิ่มความยืดหยุ่นและความเนียนเรียบให้ผิว

ผลลัพธ์ที่ได้:

  • ผิวชุ่มชื้น เปล่งปลั่ง
  • รูขุมขนกระชับขึ้น
  • หลุมสิวตื้นขึ้น
  • ผิวหน้า ผิวใต้ตาเนียนเรียบ

ระยะเวลาในการเห็นผล: เห็นผลเรื่องความชุ่มชื้นทันที และเห็นผลกระชับใน 4-6 สัปดาห์
อยู่ได้นาน : 1 ปี

 


 

HArmonyca: ผสานกำลังของ HA และ CaHA

HArmonyCA filler

ส่วนประกอบหลัก: Hyaluronic Acid (HA) + Calcium Hydroxylapatite (CaHA)

คุณสมบัติเด่น:

  • ผสานประโยชน์ของ HA และ CaHA ไว้ในผลิตภัณฑ์เดียว
  • เพิ่มปริมาตรและกระตุ้นคอลลาเจนไปพร้อมกัน
  • ให้ผลลัพธ์ทั้งระยะสั้นและระยะยาว
  • ยกกระชับและเติมเต็มผิวในคราวเดียว

ผลลัพธ์ที่ได้:

  • ปรับรูปหน้า เพิ่มมิติ
  • ยกกระชับผิวหย่อนคล้อย
  • ผิวเนียนนุ่ม ชุ่มชื้น

ระยะเวลาในการเห็นผล: เห็นผลทันทีจาก HA และเห็นผลต่อเนื่องจาก CaHA ใน 1-3 เดือน
อยู่ได้นาน: 2 ปี

 


 

Profhilo: กระตุ้นคอลลาเจนถึง 4 ชนิด

Profhilo: กระตุ้นคอลลาเจนถึง 4 ชนิด

ส่วนประกอบหลัก: Hyaluronic Acid Complex (HCC)

คุณสมบัติเด่น:

  • ประกอบด้วย HA ที่มีน้ำหนักโมเลกุลสูงและต่ำผสมกัน
  • กระตุ้นคอลลาเจนได้ถึง 4 ชนิด
  • ไม่เป็นก้อน ไม่บวม เพราะไม่มีส่วนผสมของ BDDE
  • ให้ความชุ่มชื้นระดับลึก

ผลลัพธ์ที่ได้:

  • ผิวฉ่ำวาว มีออร่า
  • เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว
  • ลดริ้วรอยตื้นๆ
  • ปรับสภาพผิวให้ดูสุขภาพดี

ระยะเวลาในการเห็นผล: เห็นผลภายใน 1-4 สัปดาห์ และเห็นผลเต็มที่หลังฉีด 2 ครั้ง
อยู่ได้นาน: ประมาณ 6-12 เดือน


 

Neoflera: กระตุ้นเส้นใยคอลลาเจนและ Fibroblast

ส่วนประกอบหลัก: Poly-D,L-Lactic Acid (PDLLA) + Carboxymethylcellulose (CMC)

คุณสมบัติเด่น:

  • กระตุ้นการสร้างเส้นใยคอลลาเจนอย่างเข้มข้น
  • เพิ่มการทำงานของเซลล์ไฟโบรบลาสต์
  • ฟื้นฟูผิวหน้าอย่างล้ำลึก
  • ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ

ผลลัพธ์ที่ได้:

  • แก้ไขปัญหาผิวหย่อนคล้อย
  • ปรับผิวที่หมองคล้ำให้สว่างกระจ่างใส
  • ฟื้นฟูโครงสร้างผิวโดยรวม

ระยะเวลาในการเห็นผล: เริ่มเห็นผลใน 3-4 สัปดาห์ และเห็นผลเต็มที่ใน 2-3 เดือน
อยู่ได้นาน : 1 ปี


 

 

คำแนะนำในการเลือกคลินิกหรือบริการที่ปลอดภัย

การเลือกสถานที่ให้บริการ Biostimulator ที่มีคุณภาพและปลอดภัยมีความสำคัญอย่างยิ่ง ควรพิจารณาปัจจัยต่อไปนี้:

1. คุณสมบัติของแพทย์ผู้ให้บริการ

  • วุฒิการศึกษาและประสบการณ์: ควรเป็นแพทย์ที่ผ่านการอบรมเฉพาะทางด้านความงามและมีประสบการณ์ในการฉีดไบโอสติมมูเลเตอร์
  • Portfolio ผลงาน: ดูผลงานก่อน-หลังของลูกค้าที่เคยใช้บริการ
  • การอัพเดทความรู้: แพทย์ที่ดีควรมีการอัพเดทความรู้และเทคนิคใหม่ๆ อยู่เสมอ

2. มาตรฐานของคลินิก

  • ใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล: คลินิกต้องได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
  • ความสะอาดและความปลอดภัย: สถานที่ต้องสะอาด อุปกรณ์ผ่านการฆ่าเชื้อตามมาตรฐาน
  • การเตรียมพร้อมรับมือกรณีฉุกเฉิน: มีอุปกรณ์และยาฉุกเฉินพร้อมใช้งาน

3. ผลิตภัณฑ์ที่ใช้

  • ความถูกต้องและแท้จริงของผลิตภัณฑ์: ตรวจสอบว่าใช้ผลิตภัณฑ์แท้ที่นำเข้าอย่างถูกต้อง
  • การเก็บรักษา: ผลิตภัณฑ์ต้องถูกเก็บรักษาอย่างเหมาะสมตามคำแนะนำของบริษัทผู้ผลิต
  • วันหมดอายุ: ตรวจสอบวันหมดอายุของผลิตภัณฑ์

4. บริการก่อนและหลังการรักษา

  • การให้คำปรึกษา: ควรมีการให้คำปรึกษาอย่างละเอียดก่อนการรักษา
  • การติดตามผล: มีระบบติดตามผลหลังการรักษา
  • การรับประกันผลการรักษา: มีนโยบายชัดเจนในกรณีเกิดปัญหาหรือผลข้างเคียง

 


 

สรุปและข้อคิดที่ควรคำนึงถึง

Biostimulator เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวและคืนความอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องผ่านการศัลยกรรม อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจเลือกใช้ควรอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลที่ถูกต้องและคำแนะนำจากแพทย์ผู้มีประสบการณ์

ประเด็นสำคัญที่ควรพิจารณา

  • ความคาดหวังที่สมเหตุสมผล: เข้าใจข้อจำกัดและผลลัพธ์ที่เป็นไปได้จากการใช้ ไบโอสติมมูเลเตอร์
  • ความต่อเนื่องในการรักษา: การรักษาอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและยาวนานยิ่งขึ้น
  • การดูแลผิวหลังการรักษา: การดูแลผิวที่ดีจะช่วยเสริมประสิทธิภาพของไบโอสติมมูเลเตอร์
  • การลงทุนระยะยาว: พิจารณาความคุ้มค่าในระยะยาวมากกว่าราคาในปัจจุบัน

คำแนะนำสุดท้าย

การตัดสินใจเลือกใช้ไบโอสติมมูเลเตอร์ถือเป็นการลงทุนในความงามที่คุ้มค่า หากเลือกผลิตภัณฑ์และบริการที่เหมาะสมกับสภาพผิวของคุณ อย่าลังเลที่จะปรึกษาแพทย์ผู้มีประสบการณ์เพื่อการฟื้นฟูผิวที่ดีที่สุดสำหรับคุณ

คุณพร้อมแล้วที่จะเริ่มต้นเส้นทางสู่ผิวที่อ่อนเยาว์และเปล่งปลั่งอย่างเป็นธรรมชาติ? กดติดตามเพื่อรับคำแนะนำดีๆ เกี่ยวกับการดูแลผิวและนวัตกรรมความงามล่าสุดจากเราทุกวัน!

 

read more
ปรับรูปหน้าอย่างไรให้ดูเรียวขึ้น? ทางออกสำหรับคนใบหน้ากลม กรามใหญ่

ปรับรูปหน้าอย่างไรให้ดูเรียวขึ้น? ทางออกสำหรับคนใบหน้ากลม กรามใหญ่

ความเข้าใจ “ใบหน้ากลม กรามใหญ่” 

หลายคนอาจรู้สึกไม่มั่นใจเมื่อต้องถ่ายรูปหรือพบปะผู้คน เพราะรูปหน้าไม่ชัดเจน มีความกลมหรือความใหญ่ของกรามที่เห็นได้ชัด โดยเฉพาะในคนที่มี ใบหน้ากลม กรามใหญ่ จะยิ่งทำให้ใบหน้าดูกว้าง ไม่ได้สัดส่วนตามที่ต้องการ ซึ่งสาเหตุสามารถแบ่งได้หลายปัจจัย 

 

สาเหตุที่ทำให้ใบหน้าดูกลมและกรามดูใหญ่ 

  • โครงสร้างกระดูกใบหน้า: บางคนเกิดมาพร้อมโครงสร้างกรามล่างที่กว้าง 
  • กล้ามเนื้อกรามแข็งแรงเกินไป: การกัดฟัน เคี้ยวของแข็งบ่อย ๆ 
  • ไขมันสะสมที่แก้มและแนวกราม: ส่งผลให้เห็นเป็นใบหน้ากลมชัดเจน 
  • ผิวหนังหย่อนคล้อย: โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุเพิ่มขึ้น หรือผิวขาดความกระชับ 

 

แนวทางการแก้ไขใบหน้ากลม กรามใหญ่ โดยไม่ต้องผ่าตัด 

หากคุณมีใบหน้ากลมหรือกรามใหญ่ ไม่จำเป็นต้องผ่าตัดเสมอไป เพราะปัจจุบันมีเทคโนโลยีทางการแพทย์หลายรูปแบบที่ช่วยปรับรูปหน้าให้ดูเรียวขึ้นอย่างปลอดภัย 

 

แนวทางการแก้ไขใบหน้ากลม กรามใหญ่ โดยไม่ต้องผ่าตัด 

 

  1. โปรแกรมฉีดโบลดกราม

เหมาะสำหรับผู้ที่มีกล้ามเนื้อกรามขนาดใหญ่ การฉีดโบทูลินัมช่วยให้กล้ามเนื้อกรามคลายตัว ลดความแข็งแรง และยุบตัวลงอย่างเป็นธรรมชาติ ใบหน้าจึงดูเรียวขึ้นแบบไม่ต้องพักฟื้น โดยผลลัพธ์จะค่อย ๆ ชัดเจนภายใน 4-6 สัปดาห์ 

  1. โปรแกรม HIFU ยกกระชับ ปรับรูปหน้า

HIFU (High Intensity Focused Ultrasound) คือคลื่นเสียงความถี่สูงที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวลึก ส่งผลให้ผิวตึงกระชับ ลดความหย่อนคล้อย และช่วยลดขนาดไขมันบริเวณกราม ทำให้ใบหน้าดูเรียวยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนหรือไขมันสะสม 

  1. ฟิลเลอร์ปรับมิติใบหน้า

ในบางกรณี การเติมฟิลเลอร์บริเวณคางหรือขมับสามารถช่วยปรับสมดุลใบหน้าให้ดูเรียวขึ้นได้ทันที ฟิลเลอร์จะช่วยสร้างความยาวและมิติให้ใบหน้า ทำให้ใบหน้ากลมดูมีโครงสร้างที่ชัดเจนยิ่งขึ้น 

  1. Thermage หรือ Ulthera กระตุ้นผิวแน่นกระชับ

สำหรับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยร่วมกับใบหน้ากลม สามารถเลือกเทคโนโลยีความร้อนอย่าง Thermage หรือคลื่นอัลตราซาวด์อย่าง Ulthera เพื่อยกกระชับผิวหน้า ลดเหนียง และฟื้นฟูคอลลาเจนจากภายใน 

 

เลือกวิธีปรับรูปหน้าที่เหมาะกับใบหน้าของคุณ 

ไม่ใช่ทุกคนที่เหมาะกับวิธีเดียวกัน การเลือกวิธีปรับรูปหน้าให้เข้ากับ ใบหน้ากลม กรามใหญ่ ต้องดูจากต้นเหตุเป็นหลัก เช่น 

 

ลักษณะปัญหา วิธีที่แนะนำ 

  • กล้ามเนื้อกรามเด่น ฉีดโบลดกราม 
  • ไขมันบริเวณแก้ม HIFU / Thermage 
  • ผิวหย่อนคล้อย Ulthera / Thermage 
  • หน้าแบน ขาดมิติ ฟิลเลอร์เสริมคางหรือขมับ 

หมายเหตุ: ควรได้รับการประเมินจากแพทย์ผู้มีประสบการณ์เพื่อแนะนำแนวทางที่เหมาะสมและปลอดภัยที่สุดสำหรับแต่ละบุคคล 

 

เคล็ดลับดูแลตัวเองหลังทำหัตถการ 

  • หลีกเลี่ยงการนวดบริเวณที่ทำหัตถการอย่างน้อย 1 สัปดาห์ 
  • งดออกกำลังกายหนักในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรก 
  • ดื่มน้ำมาก ๆ และพักผ่อนให้เพียงพอ 
  • เข้ารับการติดตามผลตามเวลาที่แพทย์นัด 

 

ความสม่ำเสมอคือหัวใจของการเห็นผลชัดเจน 

แม้การปรับรูปหน้าไม่จำเป็นต้องผ่าตัด แต่การดูแลอย่างสม่ำเสมอ และการเข้ารับบริการจากคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีแพทย์ผู้มีประสบการณ์ จะทำให้ผลลัพธ์ชัดเจน ปลอดภัย และดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด 

read more
ฟิลเลอร์กับธารารินคลินิก เติมเต็มความสวยใส แบบมั่นใจในทุกๆ วัน

ฟิลเลอร์กับธารารินคลินิก เติมเต็มความสวยใส แบบมั่นใจในทุกๆ วัน

ยุคที่ความสวยงามสามารถทำได้ง่ายด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ การเสริมความงามด้วยฟิลเลอร์ก็กลายเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน การใช้ฟิลเลอร์ไม่เพียงแค่ช่วยลดริ้วรอย เติมเต็มใบหน้าให้ดูมีมิติ แต่ยังสามารถเพิ่มความมั่นใจให้กับคุณในทุกๆ วัน โดยเฉพาะที่ ธารารินคลินิก ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการใช้ฟิลเลอร์เพื่อเสริมความงามให้ดูเป็นธรรมชาติที่สุด ดังนั้น หากคุณกำลังมองหาทางเลือกที่ไม่ต้องการการผ่าตัดแต่ได้ผลลัพธ์ที่ทันใจ ฟิลเลอร์อาจจะเป็นคำตอบที่ใช่สำหรับคุณ

 

ทำความรู้จักฟิลเลอร์คืออะไร

ฟิลเลอร์คืออะไร

ก่อนอื่นเราต้องรู้กันก่อนว่าฟิลเลอร์คืออะไร หลายๆ คนอาจจะเคยได้ยินคำนี้บ่อยๆ แต่ยังไม่รู้ลึกซึ้งว่ามันคืออะไร ฟิลเลอร์เป็นสารเติมเต็มที่ใช้สำหรับเสริมความงาม โดยมีหลากหลายชนิด เช่น ฮายาลูโรนิคแอซิด (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารธรรมชาติที่พบในร่างกายมนุษย์ และช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว การใช้ฟิลเลอร์สามารถช่วยเติมเต็มริ้วรอย หรือเพิ่มปริมาตรในส่วนต่างๆ ของใบหน้า เช่น แก้ม เหนียง หรือริมฝีปาก ให้ดูเต็มอิ่มขึ้น ซึ่งช่วยให้หน้าดูเด็กลงและสดใสขึ้นได้

 

 

ขั้นตอนการทำฟิลเลอร์ที่ธารารินคลินิก

การทำฟิลเลอร์ที่ธารารินคลินิกจะเริ่มต้นจากการปรึกษากับแพทย์ เพื่อประเมินสภาพผิวและความต้องการของลูกค้า การพูดคุยจะช่วยให้แพทย์สามารถแนะนำการใช้ฟิลเลอร์ที่เหมาะสมที่สุดกับแต่ละบุคคล หลังจากนั้นก็จะมีการเตรียมผิวหน้าให้สะอาดและการทายาชาเพื่อให้การทำฟิลเลอร์เป็นไปอย่างสบายที่สุด เมื่อเริ่มทำฟิลเลอร์ แพทย์จะใช้เข็มที่มีขนาดเล็กมากในการฉีดฟิลเลอร์ไปยังจุดที่ต้องการ โดยจะค่อยๆ ฉีดไปตามตำแหน่งที่ต้องการแก้ไข จนได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ

 

ข้อดีของการทำฟิลเลอร์

ข้อดีของการทำฟิลเลอร์

การทำฟิลเลอร์มีข้อดีหลายประการที่ทำให้มันกลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมในการเสริมความงามที่ไม่ต้องการการศัลยกรรม ฟิลเลอร์สามารถช่วยลดริ้วรอย เติมเต็มปากให้ดูอวบอิ่ม หรือทำให้แก้มดูมีมิติที่ชัดเจนขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถใช้เติมเต็มจุดที่ต้องการอย่างเช่น ร่องแก้ม ขมับ หรือคาง ทำให้หน้าดูสมส่วนและสมบูรณ์แบบมากขึ้น

อีกข้อดีคือ ฟิลเลอร์ไม่มีความเจ็บปวดมากมาย เพราะมีการใช้ยาชาในการทำให้ความรู้สึกเจ็บลดลง ซึ่งทำให้หลายๆ คนเลือกที่จะทำฟิลเลอร์แทนการทำศัลยกรรมที่มีขั้นตอนและเวลาในการฟื้นตัวที่ยาวนาน นอกจากนี้ฟิลเลอร์ยังมีความปลอดภัยสูง ถ้าทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์และใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน

 

ผลลัพธ์ที่ได้จากฟิลเลอร์

ผลลัพธ์จากการทำฟิลเลอร์จะเริ่มเห็นได้ทันทีหลังจากทำเสร็จ แม้ว่าอาจจะมีอาการบวมและเขียวบ้างในช่วงแรก แต่ก็จะหายไปภายในไม่กี่วัน ผลลัพธ์ที่ได้จะช่วยให้ใบหน้าของคุณดูเต็มอิ่มขึ้น ใบหน้าดูสดใสขึ้น และดูเด็กลง ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่หลายๆ คนต้องการ นอกจากนี้ ฟิลเลอร์ยังสามารถอยู่ได้นานประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปี ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้และการดูแลตัวเองหลังการทำ การรักษาผิวหน้าหลังการทำฟิลเลอร์จะช่วยให้ผลลัพธ์คงทนยาวนานยิ่งขึ้น

 

 

ความปลอดภัยในการทำฟิลเลอร์ที่ธารารินคลินิก

แน่นอนว่าการทำ ฟิลเลอร์ มีความปลอดภัยสูงเมื่อทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์และใช้ฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพ ซึ่งที่ธารารินคลินิกถือความปลอดภัยเป็นอันดับแรก โดยมีการใช้ฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา รวมถึงมีการทำความสะอาดและฆ่าเชื้ออุปกรณ์อย่างเคร่งครัด เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อหรืออาการข้างเคียงต่างๆ นอกจากนี้แพทย์ที่ธารารินคลินิกจะมีการตรวจสอบประวัติการแพ้ยาและการแพ้สารต่างๆ อย่างละเอียดก่อนเริ่มการทำฟิลเลอร์ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผลลัพธ์จะออกมาอย่างดีที่สุดและปลอดภัยที่สุด

 

วิธีดูแลหลังการทำฟิลเลอร์

หลังจากการทำฟิลเลอร์เสร็จแล้ว การดูแลตัวเองเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ผลลัพธ์ที่ได้คงทนและไม่เกิดผลข้างเคียงใดๆ โดยแพทย์จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลหลังการทำฟิลเลอร์ เช่น การหลีกเลี่ยงการสัมผัสผิวหน้าแรงๆ การหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางที่มีสารเคมีที่แรงในช่วงแรก การดื่มน้ำเยอะๆ และหลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง เป็นต้น

 

ทำไมต้องเลือกฟิลเลอร์ที่ธารารินคลินิก

ถ้าพูดถึง ฟิลเลอร์ หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมต้องเลือกที่ธารารินคลินิก ธารารินคลินิกไม่ได้มีดีแค่ชื่อเสียงเท่านั้น แต่ยังเป็นที่รู้จักกันในวงกว้างในเรื่องของการใช้ฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพสูง และการดูแลที่ครบวงจร ตั้งแต่การปรึกษาเบื้องต้นจนถึงการติดตามผลหลังการทำ ธารารินคลินิกมีทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์มากมาย ซึ่งการเลือกคลินิกที่มีความเชี่ยวชาญและเชื่อถือได้ คือหัวใจสำคัญในการทำฟิลเลอร์ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและปลอดภัยที่สุด

 

ทำไมต้องเลือกฟิลเลอร์ที่ธารารินคลินิก

 

สรุป

ฟิลเลอร์เป็นวิธีเสริมความงามที่ง่ายและรวดเร็ว โดยสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีและไม่ต้องพักฟื้นนาน ซึ่งธารารินคลินิกเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการทำฟิลเลอร์อย่างปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ การเลือกคลินิกที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และใช้ฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพจะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าใบหน้าของคุณจะดูสวยและสดใสแบบธรรมชาติ ในราคาที่คุ้มค่า ถ้าคุณกำลังมองหาคลินิกที่ให้บริการฟิลเลอร์อย่างมืออาชีพ ธารารินคลินิกคือคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับคุณ

read more
ยกกระชับหน้า กับธารารินคลีนิก ปรับรูปหน้าให้เป๊ะโดยไม่ต้องศัลยกรรม

ยกกระชับหน้า กับธารารินคลีนิก ปรับรูปหน้าให้เป๊ะโดยไม่ต้องศัลยกรรม

หากคุณกำลังมองหาวิธีการ ยกกระชับหน้า ให้ดูอ่อนเยาว์และสดใส แต่ไม่อยากพึ่งการผ่าตัดหรือการศัลยกรรม เรามีทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคุณ นั่นก็คือการยกกระชับหน้าด้วยเทคโนโลยีทันสมัยที่ธารารินคลีนิก ซึ่งช่วยให้คุณได้ผลลัพธ์ที่น่าประทับใจในเวลารวดเร็ว และยังไม่ต้องเสียเวลาในการพักฟื้นหรือเจ็บตัว เราจะพาคุณไปรู้จักกับขั้นตอน วิธีการ และข้อดีของการยกกระชับหน้าอย่างละเอียด เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าจะเลือกทำที่ธารารินคลีนิกหรือไม่ อย่ารอช้า มาค้นหาความสวยที่มาพร้อมกับความมั่นใจไปด้วยกัน

 

การยกกระชับหน้า คืออะไร และทำไมถึงเป็นที่นิยม

 

การยกกระชับหน้า

 

หลายคนอาจจะเคยได้ยินคำว่า ยกกระชับหน้า แต่บางครั้งยังไม่เข้าใจจริงๆ ว่ามันคืออะไร ยกกระชับหน้าคือกระบวนการที่ช่วยทำให้ผิวหน้าของเราดูเต่งตึงขึ้น ลดรอยย่นและความหย่อนคล้อย ให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์มากขึ้น โดยไม่ต้องพึ่งการศัลยกรรมเลย ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้การยกกระชับหน้าในปัจจุบันเป็นเรื่องที่ทำได้ง่าย ไม่ต้องเจ็บตัวหรือเสียเวลาในการพักฟื้นนาน หลายๆ คนในวัย 30 ขึ้นไปมักจะเริ่มสังเกตเห็นสัญญาณของความหย่อนคล้อยบนใบหน้า อย่างเช่น ผิวหนังที่เริ่มมีร่องรอยริ้วรอยหรือหางตาที่เริ่มตกลง การยกกระชับหน้าจึงเป็นทางเลือกที่ดีเพื่อช่วยให้ใบหน้ากลับมาดูอ่อนเยาว์และสดใสเหมือนเดิม

 

ทำไมต้องเลือกทำยกกระชับหน้ากับธารารินคลีนิก

ถ้าพูดถึงการทำยกกระชับหน้า หลายคนอาจจะนึกถึงการทำศัลยกรรมที่ต้องเสียเวลาในการพักฟื้นและอาจมีความเสี่ยงต่างๆ แต่จริงๆ แล้วมันไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นเสมอไป ธารารินคลีนิกมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่ช่วยให้การยกกระชับหน้าสามารถทำได้โดยไม่ต้องผ่าตัด แถมยังปลอดภัยและมีผลลัพธ์ที่ดี ธารารินคลีนิกมีเครื่องมือที่ใช้ในการยกกระชับหน้าที่เป็นที่ยอมรับในวงการ เช่น การใช้คลื่นวิทยุ RF (Radio Frequency) หรือ HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound) ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิว ทำให้ผิวตึงขึ้นและลดความหย่อนคล้อย โดยไม่ต้องเจ็บตัวหรือพักฟื้นนาน อีกทั้ง ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของธารารินคลีนิกยังมีประสบการณ์และความชำนาญในการทำทรีตเมนต์ยกกระชับหน้า จึงมั่นใจได้ว่าจะได้รับบริการที่ดีและผลลัพธ์ที่คุ้มค่ากับการลงทุน

 

ครที่เหมาะจะทำยกกระชับหน้า

 

ยกกระชับหน้า เหมาะกับใคร

 

แนะนำว่า ยกกระชับหน้า เหมาะกับใครหลายๆ คนที่เริ่มมีริ้วรอยหรือความหย่อนคล้อยที่ใบหน้า ซึ่งมักจะเกิดขึ้นเมื่ออายุเพิ่มขึ้น หรือบางคนอาจจะมีปัญหาผิวหน้าแห้ง หย่อนคล้อย แต่ไม่อยากทำศัลยกรรม การยกกระชับหน้าไม่จำเป็นต้องเป็นผู้หญิงเพียงอย่างเดียว ผู้ชายที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ดูดีและมีความมั่นใจก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการให้ผิวหน้าเรียบเนียนและสดใสขึ้น

 

 

ผลลัพธ์ที่ได้จากการทำยกกระชับหน้า

 

ผลลัพธ์ที่ได้จากการทำยกกระชับหน้า

 

หลังจากที่ทำการยกกระชับหน้าไปแล้ว ผลลัพธ์ที่ได้คือการที่ผิวหน้าดูเรียบเนียน กระชับ และอ่อนเยาว์ขึ้น รูปหน้าจะมีความยืดหยุ่นมากขึ้น จนคุณสังเกตเห็นได้ชัดว่าผิวหน้าของคุณดูดีขึ้น โดยไม่ต้องพึ่งเครื่องสำอางหรือการศัลยกรรมที่ต้องใช้เวลานานในการพักฟื้น แต่ถ้าคุณอยากได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด การทำซ้ำในบางกรณีอาจจะช่วยให้ผลลัพธ์ที่ได้ยาวนานยิ่งขึ้น นอกจากนี้ คุณยังสามารถปรับการทำทรีตเมนต์ให้เหมาะกับสภาพผิวของคุณได้ตามคำแนะนำของแพทย์

 

การเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสมสำหรับการยกกระชับหน้า

เมื่อเราพูดถึงการยกกระชับหน้าในปัจจุบัน เทคโนโลยีที่ใช้ในคลินิกก็มีหลากหลาย เช่น การใช้คลื่นวิทยุ RF, HIFU, การใช้เลเซอร์ (กลุ่มเทคโนยีคลื่นวิทยุ RF, กลุ่มเทคฏนโลยี HIFU) หรือการใช้สารเติมเต็ม, ร้อยไหม ซึ่งแต่ละวิธีจะมีลักษณะการทำงานและผลลัพธ์ที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับสภาพผิวหน้าและเป้าหมายที่ลูกค้าต้องการ

 

เลเซอร์ยกกระชับ

เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมในการยกกระชับหน้าโดยใช้แสงเลเซอร์ในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ช่วยให้ผิวหน้าเต่งตึงขึ้น กระชับขึ้น และดูอ่อนเยาว์ขึ้น โดยที่ไม่ต้องผ่าตัด สามารถเห็นผลได้ทันทีหลังการทำและใช้เวลาพักฟื้นน้อยมาก นอกจากนี้ ยังเหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยหรืออยากป้องกันการเกิดริ้วรอยในอนาคตอีกด้วย

 

เทคโนโลยีเลเซอร์ยกกระชับที่ไดรับความนิยิม

RF (Radio Frequency) คือการใช้คลื่นวิทยุในการกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิว ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น กระชับมากขึ้น วิธีนี้จะเน้นไปที่การเพิ่มความตึงกระชับในชั้นผิวหนังที่ลึก และเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยในระดับเบื้องต้น จึงเป็นวิธีที่เหมาะกับผู้ที่เริ่มมีสัญญาณของความหย่อนคล้อย เช่น ร่องแก้ม หรือหางตาที่เริ่มตก เทคโนโลยีเลเซอร์ที่ใช้คลื่น RF (Radio Frequency) อย่าง Thermage FLX และ Volnewmer ได้รับความนิยม เพราะสามารถยกกระชับผิวได้ลึกและมีประสิทธิภาพ โดยผลลัพธ์ที่ได้มักจะเห็นชัดเจนตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำและอยู่ได้นาน ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีในการฟื้นฟูความอ่อนเยาว์ของผิวหน้า Thermage FLX เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนในผิวหน้าได้ลึกถึงชั้นใต้ผิว ช่วยยกกระชับให้หน้าดูเรียบเนียนและกระชับขึ้นในระยะยาว ส่วน Volnewmer จะเน้นไปที่การปรับสมดุลผิวและลดความหย่อนคล้อย โดยการทำงานร่วมกับ RF ช่วยให้ผิวหน้าดูสดใสและยืดหยุ่นมากขึ้น โดยไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน ทั้งสองตัวเลือกนี้จึงเหมาะสำหรับคนที่ต้องการผลลัพธ์ที่เห็นชัดเจนและยั่งยืน

 

HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound) เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมในการยกกระชับหน้า เพราะมีประสิทธิภาพในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวที่ลึกที่สุด ทำให้ใบหน้ากระชับขึ้นในระยะยาว โดยไม่ต้องผ่าตัดหรือเจ็บตัว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับใบหน้าในระดับที่ลึก หรือมีความหย่อนคล้อยที่เห็นได้ชัด เพราะแต่ละเทคโนโลยีมีความแตกต่างกันไปในการให้ผลลัพธ์และระยะเวลาในการรักษา หนึ่งในเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมสูงคือ HIFU ซึ่งมีหลายรุ่นที่ให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน เช่น Ulthera Prime และ Ultraformer III ทั้งสองมีประสิทธิภาพในการยกกระชับผิวและลดริ้วรอยได้ดี แต่หากจะเลือกให้เหมาะสม ควรพิจารณาจากผลลัพธ์ที่ต้องการ และความสะดวกในการรักษา

  • Ulthera Prime ถือเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในเรื่องของการยกกระชับผิวหน้าและคอลลาเจนที่เพิ่มขึ้นจากการกระตุ้นความร้อนในชั้นผิวลึก ผลลัพธ์จะเห็นได้ชัดเจนภายในไม่กี่เดือน และอยู่ได้นานประมาณ 1-2 ปี เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนและทนทาน
  • Ultraformer III เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ได้รับความนิยมสูง ซึ่งมีหลายโปรแกรมให้เลือกตามประเภทผิวและความต้องการ โดยจะใช้เทคโนโลยี HIFU ในการส่งพลังงานความร้อนเพื่อยกกระชับผิวและลดริ้วรอย Ultraformer III เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการการรักษาที่ไม่เจ็บปวดและผลลัพธ์ที่รวดเร็ว อีกทั้งยังมีการฟื้นตัวเร็วหลังการรักษา

 

การใช้สารเติมเต็ม (HA Filler)

 

HA Filler


การใช้สารเติมเต็ม เช่น HA Filler เป็นวิธีที่ไม่เจ็บตัวมาก และให้ผลลัพธ์ทันที เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับหน้าในพื้นที่เฉพาะ เช่น ริ้วรอยร่องแก้ม หรือกรอบหน้า ทำให้ผิวดูเต็มและเต่งตึงขึ้น
HA Filler เป็นสารเติมเต็มที่นิยมใช้กันมาก มีส่วนผสมของกรดไฮยาลูโรนิค ที่ช่วยเติมเต็มร่องลึก และปรับรูปหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ สามารถอยู่ได้นาน 6-12 เดือนขึ้นอยู่กับชนิดและปริมาณที่ใช้

 

Biostimulator.

 

Biostimulator

คือสารที่กระตุ้นการผลิตคอลลาเจนภายในผิวหนัง ช่วยให้ผิวแข็งแรงและยืดหยุ่นมากขึ้น การใช้ Biostimulator ช่วยปรับผิวให้กระชับขึ้นในระยะยาว โดยไม่ต้องพึ่งการทำศัลยกรรม

 

การร้อยไหม

 

การร้อยไหม

การร้อยไหมเป็นเทคนิคที่ใช้ไหมพิเศษในการยกกระชับผิวหน้า ด้วยการดึงไหมใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวหน้าดูยกกระชับและเรียบเนียนขึ้น เทคนิคนี้จะให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานและเห็นผลชัดเจนทันทีหลังทำ

 

การดูแลผิวหลังการทำทรีตเมนต์ยกกระชับหน้า

หลังจากทำทรีตเมนต์ยกกระชับหน้าแล้ว การดูแลผิวหน้าต่อเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะมันจะช่วยให้ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาดีที่สุดและยั่งยืนที่สุด แม้ว่าหลังการทำจะไม่มีการเจ็บปวดหรือมีแผล แต่ก็ยังคงมีบางสิ่งที่คุณควรปฏิบัติตาม

  1. หลีกเลี่ยงการโดนแดด ในช่วง 1-2 สัปดาห์หลังการทำทรีตเมนต์ การโดนแสงแดดอาจทำให้ผิวบอบบางได้ง่ายกว่าเดิม ดังนั้นควรทาครีมกันแดดที่มี SPF อย่างสม่ำเสมอ
  2. ดื่มน้ำเยอะๆ เพื่อให้ผิวได้รับการฟื้นฟูอย่างเต็มที่ และช่วยให้ผิวดูสดใสสุขภาพดี
  3. หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีรุนแรง หลังการทำทรีตเมนต์ ควรหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีหนักๆ เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคืองได้
  4. รับประทานอาหารที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เช่น อาหารที่มีวิตามินซีสูง หรืออาหารที่อุดมไปด้วยกรดอะมิโนช่วยในกระบวนการฟื้นฟูผิว

 

สรุป

ยกกระชับหน้า ที่ธารารินคลีนิกเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับใครที่ต้องการความกระชับและอ่อนเยาว์ให้กับใบหน้าของตัวเองโดยไม่ต้องพึ่งการศัลยกรรม ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและความเชี่ยวชาญของทีมแพทย์ที่คลีนิก คุณจะมั่นใจได้ว่าใบหน้าของคุณจะกลับมาดูดีและสดใสในระยะเวลาอันสั้น ถ้าคุณสนใจที่จะยกกระชับหน้าที่ธารารินคลีนิก อย่าลืมเข้ามาปรึกษาผู้เชี่ยวชาญกันก่อน

 

 


 

 


 

read more
ปรับรูปหน้า ให้เป๊ะปังสวยเปลี่ยนชีวิต ไขทุกเรื่องที่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจปรับรูปหน้า

ปรับรูปหน้า ให้เป๊ะปังสวยเปลี่ยนชีวิต ไขทุกเรื่องที่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจปรับรูปหน้า

ปรับรูปหน้าให้เป๊ะปัง สวยเปลี่ยนชีวิต

ถ้าพูดถึงการ ปรับรูปหน้า หลายคนคงนึกถึงดารา เน็ตไอดอล หรือเซเลบที่เปลี่ยนลุคจนสวยหล่อขึ้นจนน่าตกใจ แต่นี่ไม่ใช่เรื่องของคนดังเท่านั้น เพราะใคร ๆ ก็สามารถปรับรูปหน้าให้สมส่วนและดูดีขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นการฉีดโบตูลินนัม การเติมฟิลเลอร์ หรือการทำศัลยกรรมใหญ่ วันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ลึกซึ้งขึ้น ว่ามีวิธีไหนบ้าง และต้องรู้อะไรก่อนตัดสินใจทำ

 

ทำความเข้าใจการปรับรูปหน้าคืออะไร

สำหรับการเลือก ปรับรูปหน้า คือการแก้ไขหรือปรับแต่งโครงสร้างของใบหน้าให้ดูสมดุลขึ้น โดยอาจทำให้หน้าดูเรียวขึ้น ลดกราม ลดเหนียง หรือแก้ไขความไม่สมมาตรของใบหน้า สำหรับบางคน อาจต้องการเสริมโหงวเฮ้งเพื่อเพิ่มความมั่นใจในการใช้ชีวิตและการทำงาน การปรับรูปหน้าไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นเรื่องของบุคลิกภาพและความมั่นใจด้วย โดยการปรับรูปหน้าแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ คือ

  • การปรับรูปหน้าแบบไม่ต้องศัลยกรรม เช่น โบตูลินนัม ฟิลเลอร์ ร้อยไหม และเลเซอร์ ซึ่งเป็นวิธีที่เจ็บตัวน้อย ฟื้นตัวเร็ว และเห็นผลได้ชัดเจนในระยะเวลาสั้น ๆ
  • การปรับรูปหน้าแบบศัลยกรรม เช่น เหลากราม ตัดกระดูกคาง เสริมหน้าผาก หรือเสริมโหนกแก้ม ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างใบหน้าแบบถาวร แต่ต้องอาศัยฝีมือแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและมีระยะเวลาพักฟื้นที่ยาวนานกว่าวิธีอื่น

ทำความเข้าใจการปรับรูปหน้าคืออะไร

 

 

เทคนิคการปรับรูปหน้าสุดฮิต

ทุกวันนี้มีเทคนิคมากมายที่ช่วยให้ใบหน้าดูสมส่วนขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องศัลยกรรมเสมอไป ใครที่อยากให้หน้าดูเรียวขึ้น ปรับรูปหน้า ดูเด็กลง หรือแก้ไขจุดบกพร่องบางอย่าง มาดูตัวเลือกที่ได้รับความนิยมกัน

เทคนิคการปรับรูปหน้าสุดฮิต

 

โบตูลินัม

โบตูลินัมเป็นวิธีที่นิยมมากในการปรับรูปหน้า โดยเฉพาะคนที่มีกรามใหญ่จากกล้ามเนื้อ หรือมีริ้วรอยที่ต้องการลดลง โบตูลินนัมจะช่วยให้กล้ามเนื้อเล็กลง ทำให้ใบหน้าดูเรียวขึ้นและดูเด็กลง นอกจากนี้ยังสามารถใช้ลดริ้วรอยบริเวณหน้าผาก หางตา และระหว่างคิ้วได้อีกด้วย ผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน และสามารถฉีดซ้ำได้เพื่อรักษาผลลัพธ์

 

ฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า (Filler)

สำหรับคนที่ต้องการเติมเต็มใบหน้าให้ดูอิ่มเอิบ เช่น เติมคาง เติมขมับ หรือเติมร่องแก้ม ฟิลเลอร์ช่วยให้ใบหน้าดูสมดุลขึ้น โดยไม่ต้องศัลยกรรม ผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ฟิลเลอร์ปรับแต่งสัดส่วนใบหน้า เช่น เติมใต้ตาให้ดูสดใสขึ้น หรือเติมริมฝีปากให้ดูอวบอิ่มขึ้น

 

ร้อยไหม (Thread Lift)

เป็นเทคนิคยกกระชับใบหน้าโดยใช้ไหมละลายช่วยดึงผิวให้ตึงขึ้น ลดความหย่อนคล้อย เห็นผลทันทีหลังทำและสามารถอยู่ได้นาน 1-2 ปี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนโดยไม่ต้องผ่าตัด วิธีนี้ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวดูแน่นและกระชับขึ้นในระยะยาว

 

Biostimulator

Biostimulator คือเทคนิคที่ใช้สารที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินใต้ผิวหนัง ช่วยให้ผิวหน้าเต่งตึงและยืดหยุ่นมากขึ้น พร้อมทั้งยกกระชับ การใช้ Biostimulator เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ดูมีมิติมากขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด 

เลเซอร์ ยกกระชับปรับรูปหน้า

การใช้เลเซอร์ในการปรับรูปหน้าเป็นการใช้แสงที่มีความยาวคลื่นเฉพาะเจาะจง เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและลดริ้วรอย การทำเลเซอร์ช่วยปรับผิวให้เรียบเนียน ลดรอยแผลเป็น และฟื้นฟูโครงสร้างผิวให้แข็งแรงขึ้น

เลเซอร์ ปรับรูปหน้า ยกกระชับ

อัลเทอร่า (Ultherapy)

ใช้คลื่นพลังงานในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยยกกระชับผิวและทำให้หน้าดูเด็กลง เหมาะกับคนที่กลัวเข็มและไม่อยากเจ็บตัว นอกจากอัลเทอร่า ยังมีเทคโนโลยี HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound) ที่ให้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกันและได้รับความนิยมมากในกลุ่มคนที่ต้องการปรับรูปหน้าแบบไม่ต้องพักฟื้น

Thermage FLX

Thermage FLX เป็นเทคโนโลยีการยกกระชับผิวหน้าด้วยคลื่นวิทยุที่มีความถี่สูง ซึ่งช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวหนัง การรักษาจะทำให้ผิวหน้าเรียบเนียนและกระชับขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดเลือนริ้วรอยและยกกระชับผิวหน้าที่เริ่มหย่อนคล้อย กระบวนการนี้ไม่เจ็บปวดและไม่มีเวลาพักฟื้นหลังการทำ

Volnewmer

Volnewmer คือการใช้เทคโนโลยีฟิลเลอร์ที่ช่วยเติมเต็มและปรับรูปหน้าให้สมบูรณ์แบบ ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ที่มีคุณสมบัติยืดหยุ่นและไม่ทำให้ใบหน้าดูแข็งเกินไป เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเติมเต็มร่องลึกบนใบหน้าหรือปรับรูปหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้น สามารถเห็นผลได้ทันทีและมีความปลอดภัยสูง

Ultraformer III

Ultraformer III ใช้เทคโนโลยี HIFU (High Intensity Focused Ultrasound) เพื่อยกกระชับผิวและปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องใช้เข็ม ด้วยการส่งคลื่นเสียงความเข้มข้นสูงลงสู่ผิวในระดับต่าง ๆ ซึ่งช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและยกกระชับผิวหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับการแก้ไขปัญหาผิวหย่อนคล้อยและลดริ้วรอยโดยไม่ต้องการการพักฟื้น

ศัลยกรรมโครงหน้า

สำหรับคนที่ต้องการเปลี่ยนแปลงใบหน้าแบบถาวร เช่น การเหลากราม ตัดกระดูกคาง หรือเสริมโหนกแก้ม เทคนิคนี้จะให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน แต่ต้องใช้เวลาพักฟื้นและมีค่าใช้จ่ายที่สูง ศัลยกรรมโครงหน้าเหมาะสำหรับคนที่ต้องการแก้ไขปัญหาโครงสร้างกระดูกที่ไม่สมดุล และต้องได้รับการวางแผนอย่างละเอียดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

 

ข้อควรรู้ก่อนปรับรูปหน้า

แน่นอนว่าการ ปรับรูปหน้า เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลต่อบุคลิกภาพและภาพลักษณ์ ดังนั้นก่อนตัดสินใจทำ ควรศึกษาและเตรียมตัวให้ดี การเลือกแพทย์และสถานพยาบาลที่เชื่อถือได้เป็นเรื่องสำคัญที่สุด ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินสภาพใบหน้าและเลือกวิธีที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด

ข้อควรรู้ก่อนปรับรูปหน้า

 

ปรับรูปหน้าแล้วชีวิตเปลี่ยนจริงไหม

หลายคนพบว่าการ ปรับรูปหน้า จะช่วยให้พวกเขามีความมั่นใจมากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของการเข้าสังคมและการทำงาน อาชีพบางประเภท เช่น นักแสดง พิธีกร หรือพนักงานขาย อาจต้องอาศัยภาพลักษณ์ที่ดีเพื่อเพิ่มโอกาสในอาชีพ อย่างไรก็ตาม ความมั่นใจที่แท้จริงไม่ได้ขึ้นอยู่กับรูปลักษณ์เพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงการพัฒนาทักษะและบุคลิกภาพจากภายในด้วย

ควรทำการปรับรูปหน้าหรือไม่

หากคุณรู้สึกไม่มั่นใจกับรูปหน้าของตัวเองและต้องการปรับให้ดีขึ้นโดยไม่กระทบสุขภาพและการเงิน การปรับรูปหน้าอาจเป็นทางเลือกที่ดี แต่ถ้าคุณยังลังเลหรือรู้สึกว่าไม่ได้มีปัญหามากขนาดนั้น การรักตัวเองในแบบที่เป็นก็เป็นทางเลือกที่ดีไม่แพ้กัน สิ่งสำคัญคือการศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วนและตัดสินใจอย่างรอบคอบ

 

สรุป

สำหรับกรเลือก ปรับรูปหน้า เป็นเรื่องที่ช่วยให้หลายคนดูดีขึ้นและเพิ่มความมั่นใจ แต่ต้องศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน เลือกสถานที่และแพทย์ที่เชี่ยวชาญ และทำความเข้าใจเกี่ยวกับผลลัพธ์และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจทำ สุดท้ายแล้ว ความงามไม่ใช่แค่เรื่องของรูปลักษณ์ภายนอก แต่เป็นการรักและดูแลตัวเองจากภายในด้วย

read more
รีวิวปรับรูปหน้า โบทูลินัมลดกล้ามเนื้อกราม ลดริ้วรอย ลิฟกรอบหน้า

รีวิวปรับรูปหน้า โบทูลินัมลดกล้ามเนื้อกราม ลดริ้วรอย ลิฟกรอบหน้า

โบทูลินัม เป็นโปรตีนที่สกัดได้จากเชื้อแบคทีเรีย ชื่อ คลอสติเดียม โบทูลินัม มีฤทธิ์ไปยับยั้งเส้นประสาทเลี้ยงกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อหยุดทำงานและเกิดการคลายตัว

สมัยก่อนนับเป็นสารอันตราย แต่ปัจจุบันนำมาใช้ในการรักษา ป้องกันการหดเกร็งกล้ามเนื้อ ใช้รักษาโรคมากมาย เช่น โรคชักกระตุก คอบิดเบี้ยว ตาเหล่ คนที่มีแผลที่ทวารหนัก การฉีดสารโบทูลินัมโดยเทคนิคเข้ากล้ามเนื้อ นำมาใช้ในด้านความงาม แพทย์จะนำมาฉีดที่บริเวณใบหน้า เพื่อลดริ้วรอย และปรับรูปหน้า

 

โบทูลินัม มีทั้งหมด 7 ชนิด แต่ชนิดที่ใช้ในด้านความงาม คือ โบทูลินัมชนิด เอ มีกลไกการทำงานโดยท็อกซินนี้จะเข้าไปจับที่ปลายประสาท ยับยั้งการหลั่งสาร Acetylcholine เพื่อไม่ให้สามารถหลั่งสารสื่อประสาทมาที่กล้ามเนื้อได้ ซึ่ง Acetylcholine ตัวนี้จะทำให้กล้ามเนื้อบีบเกร็งตัว การบีบรัดตัวที่มากนี้เป็นสาเหตุของริ้วรอยเหี่ยวย่น ตัวยาจึงทำให้กล้ามเนื้อเกิดการคลายตัว สามารถลดริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้าและริ้วรอยที่เกิดจากกล้ามเนื้อบีบตัวได้ ริ้วรอยที่เกิดขึ้นก็จะหายไป

 

โบทูลินัมด้านความงาม

เมื่อรู้กลไกการออกฤทธิ์ของยาตัวนี้แล้ว ขอสรุปผลของยาตัวนี้ออกมาง่ายๆ ได้เป็นหัวข้อใหญ่ๆ ที่ได้ผลแน่และอธิบายการทํางานได้ชัดเจน มีด้วยกัน 3 ประการคือ

1. ช่วยลดริ้วรอยบนใบหน้าบริเวณส่วนต่างๆ รวมทั้งการปรับแก้ การย้อยห้อยของส่วนต่างๆ เช่น รอยย่นระหว่างคิ้ว รอยย่นหน้าผาก รอยตีนกา

2. ช่วยลดขนาดของกล้ามเนื้อที่มากเกินงาม เช่น ลดกราม ลดน่อง ใบหน้าไม่เท่ากัน ช่วยในการใบหน้าให้มีความเรียวกระชับ

3. ช่วยลดเหงื่อที่ออกมาในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น รักแร้ ฝ่ามือ

 

รีวิวการฉีดโบทูลินัมธารารินคลินิก

รีวิว ฉีดโบหน้าเรียว ธารารินคลินิก ฉีดโบหน้าเรียว ลดเหนียง ลดกราม ลดริ้วรอย ที่ธารารรินคลินิกเลือกใช้จะเป็นยา โบทูลินุม ชนิด เอ ทั้งของเกาหลี และ อเมริกา เยอรมัน ที่ผ่าน อย ไทย 100% โดยบริษัทโดยตรง ผลลัพธ์เหมือนกัน แต่จะต่างกันที่ระยะเวลาที่คงอยู่

โบลดกราม หลังทำ 1 เดือน

โบลดกราม + ฟิลเลอร์คาง

ฉีดน่องเล็ก น่องเรียว

โบลดกราม อเมริกา

โบลดกราม อเมริกา

โบลดกราม เกาหลี

โบลดกราม อเมริกา

โบลดกราม ปรับรูปหน้าเรียว

โบลดกราม ปรับรูปหน้าเรียว

โบลดกราม ปรับรูปหน้าเรียว

 

เคล็ดลับในการเลือกฉีดโบทูลินัม

หากอยากลองฉีดโบดูสักครั้ง แต่ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร ไม่รู้ต้องเลือกแบบไหนให้เข้ากับปัญหาบนใบหน้า ธาราริน คลินิก แนะนำดังนี้

  1. เลือกโบทูลินัมที่ได้มาตรฐาน เพราะมีสารท็อกซินบริสุทธิ์ ลดความเสี่ยงจากการมี สารแปลกปลอม ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกัน
  2. ฉีดในปริมาณที่เหมาะสม เพราะการที่ฉีดปริมาณที่มากไปหรือฉีดในความถี่ที่เกินความจำเป็น (มากกว่า 3 เดือนต่อครั้ง) ก็เป็นสาเหตุให้ดื้อโบทูลินัมได้
  3. ฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ สามารถวิเคราะห์ใบหน้า ปริมาณการใช้ยาอย่างแม่นยำ

โบทูลินัม ชนิด เอ ที่ทางธารารินคลินิก และคลินิกชั้นนำเลือกใช้

หรือถ้ายังไม่รู้จะไป ฉีดโบ ที่ไหนดี สามารถปรึกษาคุณหมอ ที่มีสารลดเลือนริ้วรอยที่ได้มาตรฐาน ที่ ธาราริน คลินิกทุกสาขา ได้เลยค่ะ

ฉีดโบทุลินุมท็อกซินที่ธารารินคลินิก

  • คุณหมอออกแบบ facial design ตามหลัก golden ratio และ ประเมินแก้ไขใบหน้าแบบองค์รวมด้วย MD ASA ( multi dimensional aesthetic scan assessment) เน้นปรับจุดที่เป็นโครงสร้างหลักของใบหน้าก่อน และจุดที่ทำแล้วจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนที่สุดก่อน ภายในงบที่คนไข้มี
  • ฉีดด้วยเทคนิคเฉพาะ ทำให้ผลลัพธ์ดูดีเป็นธรรมชาติทั้งตอนที่ไม่แสดงอารมณ์ และตอนที่แสดงอารมณ์ต่างๆ
  • แพทย์เชี่ยวชาญโดยตรงประสบการณ์ฉีดมากกว่า13 ปี
  • โบทูลินัมที่ได้มาตรฐาน เพราะมีสารท็อกซินบริสุทธิ์ ลดความเสี่ยงจากการมี สารแปลกปลอม ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกัน
  • ปลอดภัยมั่นใจได้เพราะคุณหมอคัดเลือกใช้เฉพาะแบรนด์ที่ผ่านทั้ง อย.อเมริกา อย.ยุโรป อย.ไทย
  • การันตีได้จากรางวัลมากมายทั้งฟิลเลอร์และโบที่คลินิกได้รับ

 

รางวัลด้านการปรับรูปหน้าที่คลินิกได้รับ

รางวัลด้านการปรับรูปหน้าด้วย ด้วยฟิลเลอร์ โบทูลินุ่ม

 

 

🏆 Award of Appreciation Allergan Valued customer 2016-2022
คลินิกที่มียอดใช้ฟิลเลอร์ Juvederm USA และ โบอเมริกาสูงสุดระดับประเทศ และสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือโดยบริษัท Allergan 8ปีซ้อน

🏆 Top 100 Exclusive Clinic Award by Galderma Thailand 2018-2022
คลินิกที่มียอดใช้ฟิลเลอร์ Restylane สูงสุดระดับประเทศโดย บ.Galderma 4 ปี ซ้อน

🏆 Elite Provider Award of YVIORE 2021-2022
คลินิกที่มียอดใช้ฟิลเลอร์ Yviore สูงสุดระดับประเทศโดย บ.LGChem science 2 ปีซ้อน

🏆 Gold Award for XEOM1N GERMAN Toxin 2021
&Gold Award for Belotero SWISS Filler 2022 โดย บ.Merz Aesthetics

🏆 HUGEL Awards 2017-2021
คลินิกที่มียอดใช้ Hugel สูงสุดในระดับประเทศ

🏆Speaker Award of Hugel ,Bonsong 2021
พญ.ธรารัตน์ ปทุมพงษ์  แพทย์ผู้สอนฉีดปรับรูปหน้า เขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

 

Q & A คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวการฉีดโบทูลินัม

ออกกำลังกาย วิ่ง ว่ายน้ำ ได้ไหม
สำหรับออกกำลังกายถือว่าเป็นกิจวัตของหลาย ๆ คน
– งดการออกกำลังกายหนักๆ 24 ชั่วโมงแรกหลังฉีด หลังจากฉีด 1 วันออกได้ตามปกติ
– งดเข้าตู้อบซาวน่า 2 สัปดาห์เนื้องจากความร้อนจะขัดขวางกะบวนการออกฤทธ์ของโบตูลินุ่มท็อกซิน
สูบบุหรี่ได้ไหม
ควรงดดูดบุหรี่ 7-14 วันหลังฉีด เนื่องจากสารต่างๆ ในบุหรี่อาจทำให้หลอดเลือดขยาย ซึ่งอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของโบตูลินุ่มท็อกซินได้
ฉีดแล้วอยู่ได้นานแค่ไหน
อยู่ได้นาน 4-6 เดือน ขึ้นกับการใช้ชีวิตของลูกค้าแต่ละบุคคล
กี่วันเห็นผล
– โบริ้วรอย จะเริ่มตึง ๆ ภายใน 4-7 วันแล้วจะตึงเต็มที่ภายใน 14 วัน
– โบลดกราม เริ่มลงประมาณสัปดาห์ที่ 2 จะเริ่มรู้สึกปวดเมื่อยกรามกัดฟันแล้วจะรู้สึกว่ากรามนิ่มลง ให้ผลลัพธ์ชัดเจนในสัปดาห์ที่ 4
ห้ามทานอะไรบ้าง
หลังฉีดในระยะ 14 วัน ถ้าทำไม่ได้ควรงดอย่างน้อย 48 ชม. อาหารที่ควรงด
– เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด หล้าเบียร์ ไวน์ น้ำหมัก
– หมูกะทะ ปิ้งย่าง ชาบู ที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อนๆ
– อาหารที่เผ็ดมากๆ แสบร้อนจนหน้าแดง
– อาหารหมักดอง เพราะมีสารที่ทำให้เส้นเลือดขยายตัว เช่น ปลาร้า หน่อไม้ดอง มะม่วงดอง
กดสิวได้ไหม
– งดกดสิวบริเวณที่ฉีดริ้รอยหลังฉีด 2 สัปดาห์
– บริเวณที่ไม่ได้ฉีด กดได้ปกติ
– ฉีดลดกรามฉีดเข้ากล้ามเนื้อไม่เกี่ยวกับชั้นผิวกดได้เลยไม่ต้องรอหลายวัน
กินอาหารเสริมได้ไหม
ควรงดอาหารเสริม 24 ชม. ก่อน-หลัง ฉีด เพื่อป้องกันการไหลเวียนของเลือดผิดปกติ
ทําเลเซอร์ได้ไหม
สำหรับฉีดริ้วรอย ฉีดลิฟทติ้ง ควรงดทรีทเมนต์ นวดหน้า เลเซอร์ 4 สัปดาห์ สำหรับฉีดลดกราม ไม่ต้องงดใดๆ
ทาครีมได้ไหม
ทาครีมได้ปกติ เว้นบริเวณรูเข็มเพื่อลีกเลี่ยงการอักเสบหรือทาทั้งหน้าได้หลังฉีด 24 ชม.
นวดหน้าได้ไหม
หลังฉีดงดนวดหน้า 1 เดือนเพื่อป้องกันการกระจายยาผิดตำแหน่ง

ปรึกษาการปรับรูปหน้ากับคุณหมอฟรี ที่ธารารนิคลินิกได้ทุกสาขาไม่มีค่าใช้จ่าย

 

ธารารินคลินิก สาขาขอนแก่น
ที่ตั้ง : ตรงข้ามตลาดจอมพล ถนนกสิกรทุ่งสร้าง 1/76 หมู่ที่ 13 ถ.กสิกรทุ่งสร้าง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น 40000
Line ID : @tararinkkn หรือคลิก 👉 https://lin.ee/ygwQWvV
Facebook 👉 https://fb.com/tararinclinic
TEL. 📲 0930960827
แผนที่ 📌 https://goo.gl/chwNdS
ธารารินคลินิก สาขามหาสารคาม
ที่ตั้ง : หน้าตลาดโต้รุ่งเทศบาล 90,92 ผังเมืองบัญชา ต.ตลาด อ.เมือง จ. มหาสารคาม 44000
Line ID : @tararinmsk หรือคลิก 👉 https://lin.ee/3soh0wD
Facebook 👉 https://fb.com/tararinmahasarakam
TEL. 📲 0930960829
แผนที่ 📌 https://goo.gl/bksZAo
ธารารินคลินิก สาขาร้อยเอ็ด
ที่อยู่ : ถนนเรียบคลองรอบเมือง หลังร้อยเอ็ดซิตี้ 56/2 ถ.รอบเมือง ต.ในเมือง อ.เมืองร้อยเอ็ด จ.ร้อยเอ็ด 45000
Line ID : @tararinroiet หรือคลิก 👉 https://lin.ee/zaWJjjz
Facebook 👉 https://fb.com/tararinroiet
TEL. 📲 0930960828
แผนที่ 📌 https://goo.gl/maps/KbWtyLeC44Zbx9rg8
read more
ลบรอยสัก Discovery Pico เทคโนโลยีใหม่ลบได้ไวเจ็บน้อยกว่า

ลบรอยสัก Discovery Pico เทคโนโลยีใหม่ลบได้ไวเจ็บน้อยกว่า

รอยสัก หรือ แทททู (Tattoo) คือการสร้างลวดลายหรือรูปภาพบนผิวหนังโดยใช้หมึกและเข็ม รอยสักมีประวัติยาวนานและปรากฏอยู่ในวัฒนธรรมหลากหลายทั่วโลก ทั้งในแง่ของการแสดงออกทางศิลปะ ความเชื่อทางศาสนา และสัญลักษณ์ทางสังคม

read more