ใบหน้าของคุณกำลังเติมไปด้วยริ้วรอยร่องลึก ใต้ตาคล้ำ หน้าไม่เป๊ะอยู่หรือเปล่า หากคุณกำลังเจอกับปัญหาดังกล่าวคุณจะช้าไม่ได้ ต้องใช้ตัวช่วยที่เรียกว่า ฟิลเลอร์ เข้ามาเติมเต็มและแก้ไขปัญหาดังกล่าว แต่ฟิลเลอร์จะช่วยอย่างได้อย่างไร ยี่ห้อไหนที่เหมาะกับเรา และผลลัพธ์ที่ได้จะอยู่นานไหมคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปหรือป่าว หากคุณยังกังวลเรื่องนี้อยู่ในบทความนี้มีคำตอบให้คุณแล้ว ตามมาอ่านกันเลย…
สารบัญ
- Filler (ฟิลเลอร์) คืออะไร
- Filler (ฟิลเลอร์) มีกี่ประเภท
- ยี่ห้อ Filler และมีวิธีสังเกตอย่างไรว่าเป็น Filler แท้
- ฉีดฟิลเลอร์ปลอดภัยหรือไม่ ฉีดจุดไหนได้บ้าง
- ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์
- ฉีดฟิลเลอร์ต้องปฏิบัติตัวอย่างไร
- ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี
- รีวิวฉีดฟิลเลอร์ by หมอฝน ธารารินคลินิก
- ฉีดฟิลเลอร์ราคาเท่าไหร่
- ไขข้อสงสัยก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์
Filler คืออะไร มีกี่ปประเภท
Filler (ฟิลเลอร์) คือสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid (HA) เป็นสารโพลีแซคคาไรด์ หรือน้ำตาลเชิงซ้อน ซึ่งสร้างขึ้นเลียนแบบสารที่มีอยู่ในร่างกายของคนเรา โดยสารกลุ่มนี้จะมีอยู่มากในชั้นผิวหนังหรือกระดูกอ่อน ซึ่งปัจจุบันเป็นที่นิยมมากในการ ปรับรูปหน้า รักษาริ้วรอยร่องลึก แก้ปัญหาผิวย่อนคล้อย บำรุงผิวพรรณ นอกจากจะให้ผลลัพธ์เกี่ยวกับการลดความหย่อนคล้อยแล้ว ฟิลเลอร์ยังมีความสามารถที่ช่วยยกกระชับใบหน้า ปรับรูปหน้า โดยไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งจะเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังการฉีด และด้วยความที่ Filler (ฟิลเลอร์) เป็นสารที่สกัดมาจากธรรมชาติ ให้ประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูง จึงทำให้หลายคนสนใจที่จะเลือกใช้ฟิลเลอร์ในการลดเลือนริ้วรอย และปรับรูปหน้าแทนการทำศัลยกรรมแบบอื่น
Filler (ฟิลเลอร์) เป็นสารเติมเต็มที่มีคุณสมบัติสามารถรักษาได้ทั้งริ้วรอย ร่องลึก อีกทั้งยังสามารถปรับรูปหน้าได้ ซึ่งการที่ฟิลเลอร์สามารถแก้ไขปัญหาได้มากขนาดนี้ เป็นเพราะฟิลเลอร์มีหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทจุดประสงค์ก็จะแตกต่างกันออกไป ดังนั้นในหัวข้อนี้เราจะมาสรุปให้ฟังกันอีกทีว่าฟิลเลอร์มีกี่ประเภท ดังนี้ แต่ละประเภทมีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง
Filler (ฟิลเลอร์) แบ่งออกเป็น 3 ประเภท
-
ประเภทที่ 1 ฟิลเลอร์แบบชั่วคราว (Temporary Filler)
ฟิลเลอร์ประเภทนี้เป็นประเภทที่สามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ จะไม่ทิ้งสารตกค้างไว้ในร่างกาย ซึ่งการฉีด 1 ครั้ง ประสิทธิภาพของฟิลเลอร์จะสามารถอยู่ได้นาน 6-12 เดือน โดยฟิลเลอร์ชนิดนี้จะมีความปลอดภัยสูงและเป็นที่นิยมใช้กันมากในปัจจุบัน ยกตัวอย่างฟิลเลอร์กลุ่มนี้คือ ฟิลเลอร์กลุ่ม Hyluronic(HA)
-
ประเภทที่ 2 ฟิลเลอร์แบบกึ่งถาวร (Permanent Filler)
ฟิลเลอร์ประเภทนี้เป็นประเภทที่สามารถอยู่ในร่างกายได้นานกว่าฟิลเลอร์แบบชั่วคราว ซึ่งการฉีด 1 ครั้ง ประสิทธิภาพของฟิลเลอร์จะสามารถอยู่ได้นาน 1-2 ปี ซึ่งมีความยาวนานกว่าแบบแรกและมีความปลอดภัยรองลงมาจากแบบแรก โดยฟิลเลอร์ประเภทนี้จะมีส่วนผสมของ Polymer สังเคราะห์ ซึ่งจะไม่สามารถย่อยสลายภายในร่างกายได้เอง แต่ก็จะเป็นอันตรายร่างกายไม่เกิดปฏิกิริยาการต่อต้าน ดังนั้นฟิลเลอร์ประเภทนี้จึงมีใช้ในเฉพาะต่างประเทศ ยังไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้รักษาในประเทศไทย เนื่องจากเมื่อเกิดผลข้างเคียงหลังจากรักษาจะสามารถทำการแก้ไขได้ยากกว่าประเภทแรก
-
ประเภทที่ 3 ฟิลเลอร์แบบถาวร (Permanent Filler)
ฟิลเลอร์ประเภทนี้เป็นประเภทที่ร่างกายไม่สามารถย่อยสลายเองได้ เมื่อฉีดเข้าแล้วร่างกายของคนเราจะไม่ดูดซึม ส่งผลให้มีสารตกค้างอยู่ในชั้นผิวหนังของเราไปอย่างถาวร ดังนั้นฟิลเลอร์ประเภทที่ 3 นี้จึงเป็นฟิลเลอร์ที่ไม่แนะนำให้ฉีด เนื่องจากจะทำให้เกิดปัญหาตามมาในภายหลังเช่น ฟิลเลอร์ย้อย ฟิลเลอร์ไหลนั้นเอง
Filler มีกี่ยี่ห้อ ฟิลเลอร์แท้ ดูอย่างไร
ในปัจจุบันฟิลเลอร์มีหลายยี่ห้อ ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็จะมีผลลัพธ์และราคาที่แตกต่างกันออกไป โดยฟิลเลอร์ที่ธารารินคลินิกเลือกใช้ มีดังนี้
Filler Restylane นำเข้าจากประเทศสวีเดน
Filler Restylane Vital Light : เป็นฟิลเลอร์ที่เหมาะสำหรับการรักษาริ้วรอยที่เกิดในบริเวณผิวอ่อนบาง เช่น บริเวณรอบดวงตา, หลังมือ, ลำคอ, ผิวบริเวณเหนือทรวงอกที่ดูร่วงโรย และผู้ที่มีผิวหน้าแห้ง ให้กลับมามีความชุ่มชื้น แลดูเต่งตึง กระชับ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จะอยู่นานถึง 12 เดือน
Filler Restylane Lyft : เป็นฟิลเลอร์ที่เหมาะกับการฉีดใต้ตา ฉีดจมูก และเติมแก้มส้ม ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จะอยู่ได้นานถึง 12 เดือน
Filler juvederm นำเข้าจากประเทศสหรัฐอเมริกา
Filler Juvederm Ultraplus : เป็นฟิลเลอร์ที่เหมาะกับการเติมเต็มในช่วงขมับ และแก้มตอบ ฟิลเลอร์ชนิดนี้ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานถึง 12-14 เดือน
Filler Juvederm Voluma : เป็นฟิลเลอร์ที่เหมาะกับการเติมเต็มในช่วงคาง, ขมับตอบ, หรือการฉีดลิฟติ้งยกใบหน้าผลลัพธ์จะอยู่ได้นานถึง 18 เดือน
Filler Juvederm Volift : เป็นฟิลเลอร์ที่เหมาะกับการใช้แก้ปัญหาร่องลึกและรอยย่น อันเนื่องมาจากสภาวะต่าง ๆ เช่นการแก่ก่อนวัย ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานถึง 12 เดือน
Filler Juvederm Volite : เป็นฟิลเลอร์ที่เหมาะกับการใช้สำหรับเติมเต็มริ้วรอยผิวหนัง เพื่อแก้ไขลักษณะของผิวหนังให้มีความยืดหยุ่นดีขึ้น เพิ่มความชุ่มชื้น ลดรอยยับ ผลลัพธ์จะอยู่ได้นาน 8-12 เดือน
Feller นำเข้าจากประเทศฝรั่งเศส
Feller Perectha Subskin : เป็นฟิลเลอร์ที่เหมาะกับการใช้สำหรับเติมเต็มร่องลึกต่าง ๆ ทั่วใบหน้า เน้นจุดเด่นไปในทางแก้ไขโครงสร้างชั้นลึก ซึ่งผลลัพธ์อยู่ได้นานถึง 12 เดือน
ข้อสังเกตฟิลเลอร์ว่าแท้หรือปลอม สังเกตได้ดังนี้
- เลขทะเบียน อย. ที่กล่อง
- เอกสารกำกับ
- เลขที่ Lot ที่กล่อง ซอง สติกเกอร์หรือหลอดต้องตรงกัน
- หากไม่แน่ใจสามารถนำเลข Lot โทรเช็คกับบริษัทนำเข้า
ฉีดฟิลเลอร์ปลอดภัยหรือไม่ ฉีดจุดไหนได้บ้าง
อาจจะมีหลายท่านที่ยังกังวลว่าฉีดฟิลเลอร์แล้วจะปลอดภัยไหม จะเป็นอันตรายหรือป่าว ซึ่งหัวข้อนี้เราได้รวบรวมคำตอบไว้ให้กับท่านแล้ว ฟิลเลอร์ เป็นสารเติมเติมที่ได้รับการรับรองโดยองค์การอาหารและยาจากประเทศสหรัฐอเมริกา (FDA) ซึ่งอนุมัติให้เป็นสารที่มีความปลอดภัย นิยมใช้ในวงการแพทย์ซึ่งฟิลเลอร์ที่ปลอดภัยที่สุดจะจัดอยู่ในกลุ่ม Hyaluronic Acid ซึ่งเมื่อฉีดเข้าไปในร่างกายแล้วสารจะสามารถสลายได้เองไม่มีการตกค้างในร่างกาย ลูกค้าที่ฉีดแล้วสามารถกลับมาฉีดซ้ำได้อย่างแน่นอน โดยไม่เป็นอันตราย
ฟิลเลอร์ สามารถฉีดได้หลายตำแหน่ง ซึ่งขึ้นอยู่กับความกังวลของลูกค้าว่ากังวลตรงจุดไหน ซึ่งในหัวข้อนี้ธารารินคลินิกได้รวบรวมตำแหน่งที่คนนิยมฉีดฟิลเลอร์มากที่สุดและผลลัพธ์ที่ได้ออกมาดีที่สุดมาให้เป็นข้อมูล ดังนี้
1.ฟิลเลอร์คาง
2.ฟิลเลอร์ใต้ตา
3.ฟิลเลอร์ร่องแก้ม
4.ฟิลเลอร์ปาก
5.ฟิลเลอร์หน้าผาก
6.ฟิลเลอร์จมูก
7.ฟิลเลอร์ขมับ
ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ การปฏิบัติตัวก่อนและหลังฉีดฟิลเลอร์
ขั้นตอนที่ 1 ประเมินใบหน้า
โดยขั้นตอนนี้แพทย์จะทำการประเมินใบหน้าของลูกค้า ว่าบริเวณไหนที่ลูกค้ากังวลและบริเวณนั้นสามารถฉีดได้หรือเปล่า จากนั้นก็จะถามความพึงพอใจกับลูกค้าและถ่ายภาพใบหน้าบริเวณที่จะฉีดฟิลเลอร์ไว้ เพื่อวัดผลการเปลี่ยนแปลงหลังการฉีด
ขั้นตอนที่ 2 ทำความสะอาดใบหน้าและทายาชา
โดยขั้นตอนนี้หากลูกค้าท่านใดที่แต่งหน้ามาก่อน พนักงานจะคลีนหน้าให้กับลูกค้าเพื่อป้องกันการติดเชื้อ และทายาชาให้กับลูกค้าเพื่อจะช่วยลดบรรเทาอาการเจ็บปวดในขณะฉีดฟิลเลอร์
ขั้นตอนที่ 3 ฉีดฟิลเลอร์
เมื่อแพทย์ทำการประเมินหน้าของลูกค้าเรียบร้อยแล้ว และยาชาออกฤทธิ์ ก็จะถึงขั้นตอนของการฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งแต่ละ CC แพทย์จะใช้เวลาฉีดไม่นานและจะทำการประเมินผลลัพธ์ไปพร้อมกับการฉีด ซึ่งบริเวณจุดไหนใช้กี่ CC แพทย์ผู้ทำการฉีดจะเป็นคนประเมินเอง
ขั้นตอนที่ 4 ทำความสะอาดรอยเข็มและพักฟื้น
เมื่อแพทย์ผู้ทำการฉีดประเมินแล้วว่าผลลัพธ์ออกมาเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งผลลัพธ์หลังการฉีดอาจจะมีอาการบวมเล็กน้อย แพทย์ก็จะทำการประคบเย็นให้กับลูกค้า ซึ่งอาการบวมดังกล่าวจะหายได้เองใน 1-2 วัน และอนุญาตให้คนไข้กลับบ้านได้
ก่อนฉีดฟิลเลอร์ต้องปฏิบัติตัวอย่างไร
- ควรงดอาหารเสริมหรือยาบางชนิด ควรปรึกษาแพทย์
- ควรงดการทำเลเซอร์และนวดหน้าในบริเวณที่ต้องการแดออย่างน้อย 3 วัน
- ควรงดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีดอย่างน้อย 1 วัน
- ควรศึกษาข้อมูลที่จำเป็น เช่นการเลือกใช้คลินิกที่ได้มาตรฐาน การเลือกแพทย์ รวมไปถึงศึกษาฟิลเลอร์ที่เราจะฉีด เพื่อให้เกิดความปลอดภัยและมั่นจ่าได้ผลลัพธ์ที่ดีและคุ้มค่าที่สุด
หลังฉีดฟิลเลอร์ต้องปฏิบัติตัวอย่างไร
- งดการนอนราบหลังการฉีดฟิลเลอร์ 3-4 ชั่วโมง
- งดการแต่งหน้าหรือใช้ครีมบำรุง 12 ชั่วโมง
- งดการออกกำลังกายภายในน 48 ชั่วโมงแรกหลังการฉีด
- งดกิจกรรมที่ทำให้เกิดความร้อน เช่น ซาวน่า อบสมุนไพร
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาหารหมักดอง อาหารรสจัด เพราะจะส่งผลให้อักเสบ บวม และฟิลเลอร์เข้าที่ได้ช้า
- งดการทำเลอเซอร์อย่างน้อย 1 เดือน
- ควรอยู่ในที่ ที่มีอากาศเย็นและดื่มน้ำให้มาก ๆ เพื่อความชุ่มชื่นและให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดไปอุ้มน้ำและฟูขึ้น
ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี
สำหรับใครที่จะฉีดฟิลเลอร์ แต่ยังไม่รู้ว่าจะฉีดที่ไหนดี จะพิจารณาจากอะไรเป็นหลักถึงจะปลอดภัยในการฉีด ในหัวข้อนี้ธารารินคลินิกได้รวบรวมคำตอบไว้ให้ท่านดังนี้
1.พิจารณาจากคลินิก คือเราต้องเลือกดูว่าคลินิกที่เราจะไปทำการฉีดนั้นได้มาตรฐาน ได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณะสุข รวมถึงคลินิกมีการให้บริการดีหรือไม่ คุ้มค่ากับผลลัพธ์ที่ได้หรือป่าว
2.พิจารณาจากเคสรีวิวของลูกค้า คือเราต้องดูรีวิวว่าคลินิกนี้มีการฉีดจริง เห็นผลจริงหรือเปล่าโดยสังเกตได้จากผู้มาใช้บริการจริง พิจารณาจากแหล่งที่เป็นกลางและน่าเชื่อถือ ภาพรีวิวมีความเป็นปัจจุบัน และควรดูรีวิวที่เป็นคลิปวิดิโอก่อนและหลังการทำ เพื่อเปรียบเทียบผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน
3.พิจารณาจากราคา คือราคาของฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐานนั้นจะไม่ถูกและแพงจนเกินไป ซึ่งในแต่ละคลินิกนั้นราคาจะแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับความชำนาญของแพทย์ ซึ่งถ้าหากฟิลเลอร์ราคาต่ำกว่ามาตรฐานอาจจะกว่าได้ว่าเป็นฟิลเลอร์ปลอมและไม่ได้มาตรฐาน ฉะนั้นต้องสังเกตและเปรียบเทียบดี ๆ ก่อนตัดสินใจ
4.พิจารณาจากการติดตามผลของลูกค้า คือหลังจากการฉีดฟิลเลอร์คลินิกที่ได้มาตรฐานจะมีการติดตามผล และประเมินความเปรียบเทียบของก่อนและหลังการฉีดให้กับลูกค้า
5.พิจารณาจากแพทย์ที่ทำการฉีด คือเราต้องพิจารณาดูว่าแพทย์ที่ฉีดได้นั้นจะต้องมีเทคนิคเฉพาะในการฉีด มีความชำนาญ และต้องมีการอัพเดทความรู้หรือสกิลของตัวเองอยู่เสมอ จึงจะไม่ทำให้เกิดปัญหาหลังการฉีดตามมา
รีวิวฉีดฟิลเลอร์ by หมอฝน ธารารินคลินิก
รีวิวฉีด Filler ชาย
ฟิลเลอร์ร่องใต้ตา
ฟิลเลอร์ใต้ต้า
ฟิลเลอร์ปรับรูปคาง
ฟิลเลอร์มือ
ฉีดฟิลเลอร์ราคาเท่าไหร่ ที่ธารารินมีโปรโมชั่นอะไรบ้าง
หากท่านที่สนใจจะฉีดฟิลเลอร์ ธารารินคลินิกมีทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี ไว้รอบริการความสวยให้กับทุกทั้ง อีกทั้งยังมีราคาโปรโมชั่นดี ๆ มาแนะนำดังนี้
- Filler YVOIRE ราคา 8,990/CC โปรโมชั่น ซื้อ 4CC ลดเหลือ 35,000 บาท
- Filler Restylane Lyft ราคา 12,900/CC โปรโมชั่น ซื้อ 4CC ลดเหลือ 50,000 บาท
- Filler Restylane Vitallight ราคา 12,900/CC โปรโมชั่น ซื้อ 4CC ลดเหลือ 50,000 บาท
- Filler Juvederm Ultraplus ราคา 12,900/CC โปรโมชั่น ซื้อ 4CC ลดเหลือ 50,000 บาท
- Filler Juvederm Voluma ราคา 17,900/CC โปรโมชั่น ซื้อ 4CC ลดเหลือ 60,000 บาท
- Filler Juvederm Volift ราคา 17,900/CC โปรโมชั่น ซื้อ 4CC ลดเหลือ 60,000 บาท
ไขข้อสงสัยก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์
- Filler คืออะไร
คือการฉีดสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid เพื่อแก้ไขปัญหาบนใบหน้าที่ลูกค้ากังวล ซึ่งฟิลเลอร์จะช่วยแก้ปัญหาร่องลึก ริ้วรอย ร่องแก้ม ใต้ตา รวมไปถึงช่วยเติมเต็มคาง หน้าผาก ขมับ จมูก
- ฉีดฟิลเลอร์เจ็บไหม
ไม่เจ็บ เพราะก่อนการฉีดจะมีการทายาชา โดยยาชาจะออกฤทธิ์ระงับความรู้สึกเพียงชั่วคราว และตัวของฟิลเลอร์เองยังมีส่วนผสมของยาชา จึงทำให้การฉีดฟิลเลอร์นั้นแทบไม่เจ็บเลย
- ฉีดฟิลเลอร์เห็นผลในกี่วัน
เห็นผลหลังการฉีดเสร็จประมาณ 30% และจะค่อย ๆ เห็นผลอย่างชัดเจนภายใน 1 เดือน
- ฉีดฟิลเลอร์บวมไหม
มีอาการบวมนิดหน่อยเนื่องจากรอยเข็ม แต่อาการบวมดังกล่าวจะหายได้เองภายใน 1 สัปดาห์
- ฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม
การฉีดฟิลเลอร์ไม่อันตรายอย่างแน่นอน หากลูกค้าเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณะสุข และมีแพทย์ที่มีความชำนาญ มีเทคนิคในการฉีด ปัญหาที่ว่าอันตรายไหมก็จะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน
- ถ้า Filler สลายหมดจะทำให้หน้าแก่กว่าเดิมไหม
หลังจากฟิลเลอร์สลายหมดจะไม่ทำให้หน้าของเราแก่ขึ้นอย่างแน่นอน เพราะฟิลเลอร์มีสารที่ช่วยให้ร่างกายของเราชะลออายุผิวให้รู้สึกแก่ช้าลง และจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เพิ่มการสร้างคอลลาเจน จึงทำให้สภาพผิวของเราดีกว่าตอนที่ยังไม่ฉีดแน่นอน
- หลังจากที่ Filler สลายหมดแล้วเราสามารถกลับมาฉีดอีกได้ไหม และเปลี่ยนยี่ห้อที่เคยฉีดได้ไหม
หลังจากที่ฟิลเลอร์สลายหมดแล้วลูกค้าสามารถกลับมาฉีดซ้ำได้เหมือนเดิม และสามารถเปลี่ยนยี่ห้อการฉีดได้เช่นกัน ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้แนะนำให้ว่าปัญหาที่เรากังวลควรใช้ยี่ห้อไหนดี
- ปัญหาแบบไหนที่ควรฉีดสลายฟิลเลอร์
สำหรับคนที่มีปัญหาฉีดฟิลเลอร์ไปได้ระยะนึง แล้วพบอาการบวม เป็นก้อน กดไม่ลง หรือลูกค้าไม่พอใจกับผลลัพธ์ที่ได้ สำหรับคนที่พบกรณีแบบนี้ควรฉีดสลายฟิลเลอร์เพื่อให้ผิวคืนสภาพเดิม
- ปัญหาแบบไหนที่ควรขูดฟิลเลอร์
สำหรับผู้ที่มีอาการบวม แดง ซึ่งเกิดจากการพลาดไปฉีดฟิลเลอร์ปลอม ดังนั้นจึงทำให้ฟิลเลอร์ไม่สามารถสลายไปเองได้ ซึ่งเมื่อระยะเวลาผ่านไปจะทำให้เกิดเป็นก้อนแข็ง ไหลย้อน ต้องแก้ด้วยวิธีการขูดฟิลเลอร์ เพราะหากทิ้งไว้นานจะเกิดอันตรายได้
- ฟิลเลอร์เราสามารถเติมได้ตลอดไหม หรือต้องรอให้สลายหหมดก่อน
การฉีดฟิลเลอร์ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งไหนก็สามารถเติมได้เรื่อย ๆ เติมได้จนกว่าจะพอใจโดยไม่ต้องรอให้ฟิลเลอร์สลาย
หากมีข้อสงสัยปัญหาการปรับรูปหน้า ด้วย Filler สามารถปรึกษากับคุณหมอฟรี ทาง Inbox FB และ Line นี้ หรือเข้าปึกษาคุณหมอ ได้ที่ธารารนิคลินิกทุกสาขาไม่มีค่าใช้จ่าย