HArmonyCA คืออะไร
หลักการทำงานของ HArmonyCA
การทำงานของ HA (Hyarulonic Acid)
กลไกของ CA (Calcium Hydroxyapatite)
ความโดดเด่น
HArmonyCA เหมาะกับใคร
HArmonyCaกับ HA Filler ต่างกันอย่างไร
HArmonyCAกับ sculptra ต่างกันอย่างไร
ฉีดตำแหน่งไหนได้บ้าง
ขั้นตอนการฉีด
การเตรียมตัวก่อนฉีด
คำแนะนำหลังฉีด
บรรยากาศ HArmonyCAGrand Launch
ฉีด HArmonyCA ที่ไหนดี
HArmonyCA ราคา
คำถามที่พบบ่อย
สรุป
HArmonyCA คืออะไร
HArmonyCA เป็นฟิลเลอร์ที่ได้รับการพัฒนาเพื่อตอบโจทย์ปัญหาผิวในหลากหลายมิติ จากบริษัท allergan โดยการรวมคุณสมบัติของ Hyaluronic Acid (HA) ช่วยยกกระชับใบหน้า ลิฟท์ผิว ได้ผลลัพธ์ยกกระชับทันทีตั้งแต่วันแรกที่ทำ และ Calcium Hydroxylapatite (CaHA) ไว้ในหนึ่งเดียว ช่วยให้ผิวอิ่มน้ำ ดูกระจ่างใส และฟื้นฟูความยืดหยุ่นของผิวในระยะยาว ไม่เพียงแค่เติมเต็มริ้วรอย แต่ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการรักษาความแข็งแรงและกระชับของผิว
หลักการทำงาน
เป็น Hybrid Filler ผสมผสานของ Hyaluronic Acid (HA) และ Calcium Hydroxyapatite (CaHA) เข้าด้วยกัน มอบผลลัพธ์ Duo Effects ในตัวเดียว ซึ่งในระยะแรก Hyaluronic Acid จะช่วยเพิ่มปริมาตรและความชุ่มชื้นให้กับผิวได้ทันที ในขณะที่ Calcium Hydroxyapatite จะค่อย ๆ ทำงานในระยะยาวด้วยการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ใต้ผิวหนัง ส่งผลให้ผิวมีความแน่นกระชับและมีความยืดหยุ่นดีขึ้นแลดูเป็นธรรมชาติ
การทำงานของ HA (Hyarulonic Acid)
Hyarulonic Acid (HA) ไฮยาลูโรนิก แอซิด เป็นสารตามธรรมชาติที่พบในผิวหนัง มักรู้จักในหน้าที่ของการรักษาความชุ่มชื้นของผิวหนังไว้ ซึ่งใน HArmonyCa™ สาร HA ทำหน้าที่เป็นสารที่ช่วยเพิ่มวอลุ่ม ทดแทนเนื้อเยื่อในตำแหน่งที่สูญเสียคอลลาเจน หรือเซลล์ไขมันมีการฝ่อไป ช่วยแก้ปัญหาผิวที่เป็นรอยยับ เป็นร่องลึก และยังเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวด้วยคุณสมบัติในการอุ้มน้ำไว้อีกด้วย
HA รู้จักกันในฐานะที่เป็นสารหลัก ที่ใช้ในฟิลเลอร์ (Filler) ซึ่งมีการใช้มาอย่างยาวนาน โดย HA เป็นสารน้ำตาลเชิงซ้อน ที่สร้างขึ้นเลียนแบบ HA ในผิวของเรา จึงมีการรับรองว่ามีความเข้ากันได้ดีกับร่างกาย
สำหรับใน HarmonyCa™ HA จะถูกทำให้มีโครงร่างที่แข็งแรงขึ้น และอยู่ในผิวได้นานขึ้น เมื่อเทียบกับ HA ในธรรมชาติ ทำให้ผลลัพธ์ในการเติมเต็ม เห็นผลได้อย่างชัดเจน และอยู่ยาวนานยิ่งขึ้น
กลไกของ CaHA (Calcium Hydroxyapatite)
Calcium Hydroxyapatite หรือที่เรียกย่อ ๆ ว่า CaHA (คา-ฮ่า) เป็นอีกส่วนประกอบหลักของ HarmonyCa™ โดยทำหน้าที่เป็นสารกระตุ้นคอลลาเจน (biostimulator) ซึ่ง CaHA จะค่อย ๆ ทำงาน ออกฤทธิ์ในระยะยาวเพื่อปรับปรุงคุณภาพผิวจากภายใน
- การกระตุ้นคอลลาเจน: อนุภาค CaHA มีลักษณะเป็นทรงกลม ขนาดเล็กมาก เรียกว่า Microsphere เมื่อเข้าไปสู่ชั้นหนังแท้ จะกระตุ้นเซลล์ fibroblast ให้เกิดการสร้างสารที่ช่วยในโครงสร้างผิว เช่น Proteoglycans และ Elastin ตามมาด้วยการสร้างเส้นใยคอลลาเจน ที่จะค่อย ๆ สร้างตั้งแต่สัปดาห์แรกหลังฉีด จนเกิดเป็นโครงร่างคอลลาเจนที่ทั้งหนา และแน่นขึ้น
- การกระชับผิวในระยะยาว: โครงร่างคอลลาเจนที่สร้างขึ้นใหม่ช่วยในการยกกระชับผิว ลดการหย่อนคล้อย ช่วยลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ และทำให้ผิวมีความแข็งแรง เต่งตึง ยืดหยุ่นขึ้น โดยผลลัพธ์นี้จะค่อย ๆ เกิดขึ้นอย่างช้า ๆ เป็นธรรมชาติ
- การดูดซึมทางชีวภาพอย่างช้าๆ: CaHA จะถูกสลายไปอย่างช้า ๆ แบบเป็นธรรมชาติ ทำให้เกิดผลลัพธ์ของผิวหนังได้ในระยะยาว โดยทั่วไปประมาณ 12 ถึง 18 เดือน
CaHA เป็นสารที่ผลิตจากกระดูกหรือปลาทะเล มีลักษณะเหมือนสารในร่างกาย เป็นสารที่มีการนำมาใช้ทางการแพทย์อย่างยาวนานแล้ว โดยเฉพาะในการผ่าตัดกระดูกและฟัน มีความเข้ากันกับร่างกาย(biocompatility) มีความปลอดภัยสูง
การทำงานร่วมกันของ HA และ CaHA ใน ฮาโมนิก้า ทำให้ได้ผลลัพธ์แบบทันทีและแบบยั่งยืน ช่วยให้ฮาโมนิก้าเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับการฟื้นฟูผิวหน้าในปัจจุบัน
ความโดดเด่นของ HArmonyCA
| ความแข็งแรง | ความยืดหยุ่น | การกระจายตัวที่ดี | การอุ้มน้ำ |
|
|
|
|
HArmonyCA เหมาะกับใคร
1.คนที่มีผิวหลวม ลองดึงผิวแล้วยืดไม่หดกลับ
2.ผิวหย่อนคล้อย มีกระเปราะแก้มห้อย
3.กรอบหน้าไม่ชัด ต้องการสร้างกรอบหน้า
4.มีรอยร่องข้างมุมปากเวลายิ้ม มีริ้วรอยผิวยับ
5.ต้องการให้ผิวแน่นกระชับ
HArmonyCa กับ HA Filler ต่างกันอย่างไร
| หัวข้อเปรียบเทียบ | HArmonyCa(ฮาร์โมนิก้า) | Filler (ฟิลเลอร์) |
| ส่วนประกอบ | Calcium Hydroxyapatite ทำให้ช่วยทั้งเติมเต็มและกระตุ้นคอลลาเจน | ฟิลเลอร์แบบเดิมมีเพียง Hyaluronic Acid เท่านั้น |
| ระยะเวลาผลลัพธ์ | ผลลัพธ์ คงอยู่ได้นาน 12-18 เดือน | ผลลัพธ์ฟิลเลอร์แบบเดิมคงอยู่ได้นาน 6-12 เดือน |
| คุณสมบัติเสริม | การกระจายตัวสม่ำเสมอ มี lidocaine ช่วยลดความเจ็บปวด | ไม่มีคุณสมบัติในเรื่องการยกกระชับ มี lidocaine ช่วยลดความเจ็บปวดในบางรุ่น |
ฮาโมนิก้าและฟิลเลอร์แบบเดิมมีความแตกต่างที่สำคัญหลายประการ ฮาโมนิก้า มีส่วนประกอบพิเศษที่ผสมผสานระหว่าง Hyaluronic Acid และ Calcium Hydroxyapatite ทำให้ช่วยทั้งเติมเต็มและกระตุ้นคอลลาเจน ในขณะที่ฟิลเลอร์แบบเดิมมีเพียง Hyaluronic Acid เท่านั้น ด้านผลลัพธ์ ฮาโมนิก้า คงอยู่ได้นาน 12-18 เดือน มีการกระจายตัวสม่ำเสมอ และมีลิโดเคนช่วยลดความเจ็บปวด ต่างจากฟิลเลอร์แบบเดิมที่อยู่ได้ 6-12 เดือน และไม่มีคุณสมบัติในเรื่องการยกกระชับได้เท่าฮาโมนิก้า
HArmonyCa กับ sculptra ต่างกันอย่างไร
| หัวข้อเปรียบเทียบ | HArmonyCa(ฮาร์โมนิก้า) | Sculptra |
| ผลลัพธ์ทันที | ให้ผลลัพธ์ทันที พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ | ไม่ให้ผลลัพธ์ทันที ต้องกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระยะยาว |
| ความคงทน | คงอยู่ได้นาน 12-18 เดือน | คงอยู่ได้นานกว่า 2 ปี |
| จำนวนครั้งที่ฉีด | ฉีดเพียงครั้งเดียว | ต้องฉีด 2-3 ครั้ง ห่างกัน 4-6 สัปดาห์ |
| ระยะเวลาที่เห็นผล | เห็นผลทันทีหลังฉีด | ต้องรอ 2-3 เดือนจึงจะเห็นผลชัดเจน |
| คุณสมบัติเสริม | เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเห็นผลเร็ว และสามารถเน้นเฉพาะจุดได้ | กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวชั้นลึก เหมาะกับการปรับโครงสร้างผิวในระยะยาว |
การเลือกระหว่าง HArmonyCa และ Sculptra นั้นขึ้นอยู่กับความต้องการและปัญหาผิวของแต่ละบุคคล โดยฮาโมนิก้า จะให้ผลลัพธ์ทันที พร้อมกระตุ้นสร้างคอลลาเจนใหม่ด้วยการฉีดเพียงครั้งเดียวก็เห็นผล เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงเร็ว และผลลัพธ์อยู่ได้นาน
ส่วน Sculptra มีส่วนประกอบหลักเป็น Poly-L-lactic acid (PLLA) ที่กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนอย่างค่อยเป็นค่อยไป ต้องฉีด 2-3 ครั้งห่างกัน 4-6 สัปดาห์ และต้องใช้เวลา 2-3 เดือนกว่าจะเห็นผลชัดเจน แต่ผลลัพธ์อยู่ได้นานกว่าถึง 2 ปีขึ้นไป เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ระยะยาวและไม่รีบเห็นผล
ในแง่การทำงาน Sculptra จะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนแบบทั่วทั้งใบหน้า เหมาะกับการเพิ่มปริมาตรแบบองค์รวม ในขณะที่ฮาโมนิก้ สามารถปรับแต่งเฉพาะจุดได้ดีกว่าและควบคุมการเติมเต็มได้แม่นยำกว่า
HArmonyCA ฉีดตำแหน่งไหนได้บ้าง
| แก้มทางด้านlateral | เติมเต็มผิวจากการสูญเสียปริมาตรผิวและไขมันชั้นลึกให้อิ่มฟู่ บริเวณโหนกแก้ม แก้มตอบ ยกกระชับผิวให้ตึงขึ้น และทำให้ใบหน้าแลดูอ่อนเยาว์ |
| คาง | สร้างความสมดุลให้ใบหน้า เสริมคางให้มีมิติ ปรับรูปหน้าให้เรียวสวย และช่วยยกกระชับบริเวณใต้คาง |
| Jawline | ทำให้โครงหน้าดูชัดเจนและมีมิติมากขึ้น กรอบหน้าคมชัดได้สัดส่วน |
ขั้นตอนการฉีด
- ประเมินใบหน้าและวางแผน
แพทย์จะทำการประเมินดูลักษณะของใบหน้าและปัญหาผิว รวมถึงตรวจดูบริเวณที่จะทำการฉีด เพื่อแก้ไขปัญหาบนใบหน้า จะมีการทำเครื่องหมายหรือสัญลักษณ์ในการฉีดแต่ละจุดบนใบหน้า รวมถึงมีการถ่ายภาพใบหน้าบริเวณที่จะทำการรักษา เพื่อวัดผลการเปลี่ยนแปลงภายหลังจากทำการฉีด
- ทำความสะอาดและใช้ยาระงับความรู้สึก
ขั้นตอนของการใช้น้ำยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียเช็ดทำความสะอาดบนใบหน้า หากมีการแต่งหน้ามาก่อน จะต้องทำการล้างเครื่องสำอางออกทั้งหมด เพื่อป้องกันการติดเชื้อ จากนั้นจะเป็นขั้นตอนการทายาระงับความรู้สึก หรือ อาจใช้อุปกรณ์เย็นจัด ที่จะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดที่อาจเกิดขึ้นขณะฉีด
- ฉีดฮาโมนิก้า
เมื่อได้ทำการประเมินใบหน้าไปเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนของการฉีดจะใช้เวลาในการฉีดแต่ละเข็มเพียงไม่นาน แพทย์จะทำการนวดและประเมินผลการตรวจไปพร้อมๆ กับการการฉีด
- การทำความสะอาด
เมื่อแพทย์เห็นว่าผลลัพธ์ของการรักษาเป็นที่พอใจแล้ว จะลบเครื่องหมายหรือสัญลักษณ์ที่ทำไว้ก่อนการฉีด และอาจใช้น้ำแข็งประคบเพื่อลดอาการบวมและบรรเทาความรู้สึกไม่สบายที่จะเกิดขึ้นกับผู้ป่วย ผิวหนังบริเวณดังกล่าวอาจมีการฟกช้ำจากรอยเข็มที่ใช้ฉีด อยู่สัก 1-2 วัน แต่ก็จะไม่เจ็บมาก เมื่อกลับมาพักฟื้นที่บ้าน อาจใช้น้ำแข็งประคบบริเวณดังกล่าว โดยอาการจะดีขึ้นภายในไม่กี่ชั่วโมง หรือเพียง 2-3 วัน
การเตรียมตัวก่อนฉีด
- งดยาต้านการอักเสบ (NSAIDs) และยาละลายลิ่มเลือด เช่น แอสไพริน วาร์ฟาริน เป็นเวลาอย่างน้อย 7 วัน หรือยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด ควรปรึกษาแพทย์ว่าอาจต้องหยุดใช้ยาชั่วคราว
- งดอาหารเสริมที่อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดรอยช้ำ เช่น น้ำมันปลา วิตามินอี ควรหยุดทานอย่างน้อย 7 วัน ก่อนเข้ารับการรักษา
- หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหรือยาใด ๆ ที่อาจทำให้ผิวระคายเคือง เช่น เรตินอล หรือสารที่มีกรดอัลฟาไฮดรอกซี ประมาณ 3-5 วันก่อนการฉีด
- งดแอลกอฮอล์และบุหรี่อย่างน้อย 24 ชั่วโมง เพื่อลดความเสี่ยงการช้ำ และช่วยให้การฟื้นตัวดีขึ้น
- แจ้งประวัติการแพ้ยาและโรคประจำตัวให้แพทย์ทราบทุกครั้ง
- ทำความสะอาดหน้าและมาพบแพทย์โดยไม่แต่งหน้า
- หากมีการติดเชื้อใด ๆ บริเวณใบหน้า ควรรักษาให้หายสนิทก่อน
คำแนะนำหลังฉีด
- ประคบเย็นบริเวณที่ฉีดใน 24 ชั่วโมงแรกเพื่อลดอาการบวม
- งดการออกกำลังกายหนัก การอบซาวน่า หรือกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก 24-48 ชั่วโมง
- งดการนวดหรือกดบริเวณที่ฉีดเป็นเวลา 2 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดโดยตรง และทาครีมกันแดด SPF 50+ เป็นเวลา 1 สัปดาห์
- งดการทำทรีตเมนต์ใด ๆ บริเวณใบหน้า เช่น เลเซอร์ อัลตร้าซาวด์ เป็นเวลา 2 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงยากลุ่มแอสไพริน หรือ NSAID อย่างน้อย 1 สัปดาห์หลังฉีด ถ้ามีอาการปวดแนะนำทานพาราเซตามอล
ใครบ้างไม่เหมาะกับHArmonyCA
- คนที่มีโรคประจำตัวกลุ่มเลือดออกง่าย หรือรับประทานยาละลายลิ่มเลือดเป็นประจำ
2. คนที่ทานยากดภูมิ หรือเป็นโรคภูมิแพ้ตัวเอง
3. หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร
4. คนที่มีประวัติคีย์ลอยด์ แผลเป็นนูน
5. คนที่เคยฉีดสารเติมเต็ม สารแปลกปลอม ชนิดที่ไม่สลายมาก่อน เช่น ซิลิโคน เป็นต้น
6. คนที่มีประวัติเคยแพ้ยาชนิดนี้มาก่อน
7. คนที่มีประวัติแพ้ยาชาแบบฉีด
บรรยากาศ ธารารินคลินิกเข้าร่วมงานเปิดตัว HArmonyCA Grand Launch
ฉีด HArmonyCa ที่ไหนดี
การเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือและมีมาตรฐานเป็นสิ่งสำคัญ ควรเลือกคลินิกที่มีแพทย์ผู้มีประสบการณ์ด้านฟิลเลอร์โดยเฉพาะ
HArmonyCa ราคา
คำถามที่พบบ่อยในการฉีด HArmonyCa
- เจ็บไหม? การฉีด ฮาโมนิก้า (HACa) มีความเจ็บปวดในระดับปานกลาง แต่แพทย์จะมีวิธีการจัดการความเจ็บปวดที่มีประสิทธิภาพ โดยก่อนการรักษา จะมีการทายาชาเฉพาะที่นาน 15-30 นาที เพื่อลดความเจ็บปวดระหว่างการรักษา ตัวผลิตภัณฑ์เองก็มีส่วนผสมของยาชา Lidocaine ที่ช่วยลดความเจ็บปวดระหว่างและหลังการฉีดได้ด้วย
หลังการรักษา - อยู่ได้นานเท่าไหร่? ผลลัพธ์สามารถคงอยู่ได้นาน 12-24 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลตัวเอง
- มีผลข้างเคียงหรือไม่? อาจมีอาการบวมแดงหรือรอยช้ำเล็กน้อยในช่วง 1-2 วันแรก และจะค่อย ๆ หายไปเอง
- เหมาะกับผิวประเภทไหน เหมาะกับผิวทุกประเภท เนื่องจากเป็นสารที่เข้ากันได้ดีกับเนื้อเยื่อของมนุษย์ แต่ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเหมาะสมเป็นรายบุคคล โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาผิวแพ้ง่ายหรือมีโรคผิวหนัง
- ฉีด ฮาโมนิก้า (HACa) ร่วมกับการรักษาอื่นได้หรือไม่? สามารถทำร่วมกับการรักษาอื่นได้ เช่น โบท็อกซ์ เลเซอร์ หรือการร้อยไหม แต่ต้องเว้นระยะเวลาที่เหมาะสมและวางแผนการรักษาร่วมกับแพทย์
- หลังฉีดแล้วต้องพักฟื้นหรือไม่? ไม่จำเป็นต้องนอนพักฟื้น สามารถกลับไปทำงานหรือทำกิจกรรมเบา ๆ ได้ทันที แต่ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักและการนวดหน้าในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก อ่านคำแนะนำหลังฉีดเพิ่มเติม
- หากมีรอยช้ำหลังฉีด จะหายในกี่วัน? โดยทั่วไป รอยช้ำมักหายภายใน 7-14 วัน ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล สามารถใช้ครีมลดรอยช้ำหรือประคบเย็นเพื่อช่วยให้หายเร็วขึ้น
สรุป
HArmonyCa เป็นฟิลเลอร์ที่ตอบโจทย์การฟื้นฟูผิวแบบ Hybrid Filler มอบผลลัพธ์ Duo Effects ในตัวเดียว ด้วยคุณสมบัติที่ผสานการเติมเต็มและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในขั้นตอนเดียว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับและฟื้นฟูผิวในระยะยาว หากคุณกำลังมองหาวิธีดูแลผิวที่มีประสิทธิภาพ สามารถปรึกษาแพทย์ผู้มีประสบการได้ที่ธารารินคลินิกใกล้บ้านคุณวันนี้!