ปากกระจับ การผ่าตัดตกแต่งริมฝีปาก เพื่อเพิ่มเสน่ห์ให้ใบหน้าเพราะ ริมฝีปากเป็นอวัยวะที่มีความสำคัญต่อทุกคน ดังนั้นการมีริมฝีปากที่สวยย่อมเป็นที่ต้องการของทุกคน สำหรับผู้ที่มีริมฝีปากบนและริมฝีปากไม่เท่ากัน หรือริมฝีปากหนาเกินไปจนดูไม่สวยงาม อาจทำให้หมดความมันใจในตัวเองได้
ขั้นตอนการทํา ปากกระจับ
- แพทย์จะทำการฉีดยาชาเฉพาะที่บริเวณรอบริมฝีปากและยานอนหลับชนิดอ่อนเพื่อให้ลดอาการเจ็บ
- แพทย์ทำการผ่าตัดโดยตัดเนื้อเยื่อด้านในออกบางส่วน
- เย็บปิดแผลด้านในของริมฝีปาก โดยใช้ไหมละลาย
ขั้นตอนการดูแล ก่อน-หลัง ทำปากกระจับ
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดปากกระจับ
- งดยาต้านการอักเสบ [nเสด] เช่นasไพริน บุหรี่ อาหารเสริมทุกชนิดที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น กระเทียม น้ำมันปลา อย่างน้อย 2 อาทิตย์ก่อนการผ่าตัด
- สมุนไพรบางชนิด เช่น อิฟนิ่งพริมโรส ยาวิตามินอีปริมาณสูง ๆ อาหารที่มีส่วนของผงชูรส กระเทียม หัวหอม ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง อาจทำให้เลือดออกมากผิดปกติหรือปัญหาระหว่างผ่าตัด ควรแจ้งให้แพทย์ทราบเพราะอาจต้องหยุดรับประทานสมุนไพรก่อนเข้ารับการผ่าตัด ประมาณ 7 วัน
- ทานอาหารให้พร้อมก่อนผ่าตัด เนื่องจากหลังผ่าตัดมักทานอาหารได้น้อย
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
การดูแลหลังผ่าตัดปากกระจับ
- ในช่วง 1-2 วันแรก แผลอาจมีเลือดซึมเล็กน้อย ให้ใช้ไม้พันลำลีซับเลือด เพื่อป้องกันไม่ให้คราบเลือดแข็งติดแผล
- นอนศรีษะสูงในช่วง 3-5 วันแรก จนเริ่มยุบบวม
- ทำความสะอาดปากโดยน้ำยาบ้วนปากเฉพาะ (Isodine) เนื่องจากหลังทำ ปากกระจับ การใช้น้ำยาป้วนบากจะช่วยให้แผลหลังผ่าตัดสะอาดและช่วยลดการติดเชื้อ
- งดการจับสัมผัส การจับบริเวณแผล ใช้ลิ้นเลียแผล ใช้ลิ้นดุนบริเวณแผลที่เย็บ และการดึงไหม จะทำให้เลือดออกได้ง่าย
- ประคบเย็นและประคบร้อน การประคบเย็นบริเวณแผลศัลยกรรม ในช่วง 1-3 วันแรก ช่วยลดอาการบวม และอาการเจ็บ ที่เกิดจากการระบมของ แผล และเมื่อแผลหายบวมแล้วให้ทำการประคบร้อนเพื่อให้เลือดที่คลั่งอยู่กระจายตัว
- ดื่มน้ำสะอาดต้มสุกโดยใช้หลอด หลังจากการทำศัลยกรรม เพื่อช่วยหลีกเลี่ยงแผลโดนน้ำ
- หลีกเลี่ยงอาหารร้อนจัด เย็นจัด และอาหารที่มีรสชาติจัดจ้าน ควรทานอาหารอ่อนๆ เช่นโจ๊ก ข้าวต้ม แต่ไม่ควรทานขณะร้อน
- ทานยาตามที่คลินิกจัดให้จนหมด *อย่ากินยาตอนท้องว่างอาจทำให้มีอาการคลื่นไส้ได้*
- หลังทานอาหารทุกครั้ง ใช้ไม้พันสำลีชุบน้ำเกลือเช็ดบริเวณแผล เศษอาหารที่อาจตกค้างตามไหมออกให้หมด แล้วซับให้แห้ง เศษอาหารที่ตกค้างจะทำให้เกิดการติดเชื้อได้ *การทำความสะอาดแผลสำคัญมาก ต้องเช็ดคราบต่างๆออกให้หมด*
- วันที่ 3 ถึง 4 ปากจะเริ่มแห้งตึงให้ทาวาสลีนบางๆ
- นัดตัดไหม 10ถึง14 วัน(ให้แผลแห้งจึงสามารถตัดใหมได้) ***หลังตัดไหม3ถึง4วันแรกให้เริ่มนวดยืดบริเวณริมฝีปากเพื่อป้องกันการแข็งตัวการเป็นไตและอาการชา***
- ทำใจให้สบาย หลังการตัดแต่งริมฝีปากจะบวมมากในช่วงแรก เป็นเรื่องปกติต้องใช้เวลาระยะนึงถึงจะยุบเข้าที่ได้รูปสวยงาม